ที่ สน.ดุสิต นายพริษฐ์ รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ อายุ 30 ปี หลานชายหลวงเสรีเริงฤทธิ์ อาชีพ พนักงานราชการแห่งหนึ่ง พร้อม นางสาว ภัคจิรา กีรติวิบูลย์วงศ์ นิสิตปี 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย /นางสาว สุทธิดา วัฒนสิงห์ นิสิตปี 3 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนายคุณภัทร คะชะนา นิสิตปี4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง เดินทางเข้าพบ ร้อยตำรวจเอก มอ ระนา รองสารวัตร สน.ดุสิต เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและให้ช่วยติดตามหมุดคณะราษฎร สัญลักษณ์เหตุการณ์อภิวัฒน์สยาม 2475 ที่อยู่บริเวณลานหน้าพระบรมรูปทรงม้า ที่หายไป
นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้อาสามาเป็นหนังหน้าไฟให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมไทยที่ไม่สบายใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประวัติศาสตร์การปกครองของประเทศที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อทวงถามว่า หายไปไหน หายไปได้อย่างไร และผู้ที่รับผิดชอบบ้าน ไม่ดำเนินการ หรือพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงฝากถามถึงพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความเห็นต่อกรณีนี้หรือ
ด้านรองสารวัตร สน.ดุสิต ระบุว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว สำหรับทรัพย์สินที่หายไปเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ผู้ใดก็สามารถมาร้องทุกข์กล่าวโทษได้ อย่างไรก็ตาม จะนำเรียนผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาต่อไป
ล่าสุด วันนี้ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ออกแถลงการณ์เรื่อง การลักทรัพย์สมบัติสาธารณะและฉวยเปลี่ยน “หมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ” เรียกร้องให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายกรัฐมนตรี ประธานสนช. สำนักเลขาธิการสภา กรมศิลปากร และสำนักงานเขตดุสิต แสดงความรับผิดชอบต่อภารกิจในการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยและปกปักรักษาสมบัติสาธารณะ โดยให้ดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายและลงทัณฑ์ทางสังคมกับผู้ขโมยหมุดไป