การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคายังคงเป็นปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ โดยเมื่อวันที่
28 มี.ค.2561 คณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติเห็นชอบให้สำนักงานสลากฯ ทำการประชาพิจารณ์ลอตเตอรี่ หรือสลากรวมชุด แก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาที่กำหนดฉบับละ 80 บาท แต่ราคาขายจริงในท้องตลาดฉบับละ 100-150 บาท
ล่าสุด คณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติให้กองสลากจัดทำสลากแบบรวมชุดขึ้น หลังจากได้ลงพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชน ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายสลาก เกี่ยวกับความต้องการในการซื้อขายสลาก เพื่อรวบรวมไปสู่วิธีการแก้ไขปัญหา พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ซื้อต้องการซื้อสลากแบบรวมชุด ผู้ขายจึงต้องไปหาซื้อสลากมารวมชุดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อ ทำให้ต้นทุนการจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น และยังทำให้สลากแบบใบเดี่ยวหายไปจากตลาดด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของปริมาณสลากรวมชุดที่มีความแตกต่างกัน มีทั้งแบบ 5 ใบ 3 ใบ และ 2 ใบ เป็นต้น ทำให้สถานการณ์การจำหน่ายสลากแบบรวมชุดทวีความรุนแรงมากขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การรวมชุดสลากจะเป็นแบบ 2-2-1 คือ การจัดชุด 2 ใบ เป็นจำนวน 2 เล่ม และจัดชุด 2 ใบ อีก 2 เล่ม และมี 1 เล่ม ที่เป็นใบเดี่ยว สำหรับชุด 2 ใบแรก มีเลข 6 หลักเหมือนกัน จำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ และจะมีเลขหมายเลข 6 หลักเหมือนกัน ซึ่งไม่ซ้ำกับชุดแรก อีกจำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ และอีก 1 เล่ม จำนวน 100 ใบ ทำให้รายย่อยแต่ละรายได้รับสลากจำนวน 5 เล่มเช่นเดิม แต่สามารถจำหน่ายสลากชุดได้ 200 ชุด ชุดละ 2 ใบ ซึ่งสามารถแยกขายเป็นใบเดี่ยวได้
นอกจากนี้ จะมีการคละตัวเลขภายในเล่มเดียวกัน และการจัดจำหน่ายเป็นการกระจายไปทั่วประเทศ ทำให้ไม่สามารถนำไปจับชุดเพื่อรวมเป็นชุดจำหน่ายในปริมาณมาก ๆ ได้อีกต่อไป และจะพิมพ์สีที่แตกต่างกันเพื่อเป็นจุดสังเกต เพื่อให้ผู้ขายและผู้ซื้อเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสลากที่พิมพ์ออกมาเป็นแบบรวมชุด
โดยสลากแบบรวมชุดนี้ จะจำหน่ายในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ โดยเริ่มดำเนินการในการทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ครั้งที่ 81 ซึ่งเปิดให้จองสลากงวดวันที่ 1 มีนาคม 2562 (ทำรายการจองวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ และทำรายการซื้อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562) และจะใช้เวลา 3 เดือนในการประเมินผลการทดลองตลาด
ทั้งนี้การจัดให้กองสลากกรวมชุดครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาไว้ 3 ระยะ คือ ระยะแรก การจัดระเบียบและบังคับใช้กฎหมาย ระยะที่ 2 การปรับแผน และกำหนดทิศทางการจำหน่าย ด้วยการจัดระบบการจำหน่ายสลากผ่านโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า เพื่อกระจายไปยังผู้จำหน่ายทั่วประเทศ และระยะที่ 3 การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม