ผู้ใช้ เฟสบุ๊ค ที่ชื่อว่า Kukkai Pennapa Siripun ได้ โพสต์คลิป และข้อความ ร้องทุกข์ถึงความเดือดร้อนจากนกพิราบที่มาชุมนุมกันเป็นจำนวนมากเพราะคุณป้าเพื่อนบ้านให้อาหารมัน ซึ่งเคยไปพูดคุยกันแล้วแต่ถูกต่อว่ากลับ วันนี้สำนักงานเขตหลักสี่ ก็ลงไปแก้ปัญหา
ผู้ใช้ เฟสบุ๊ครายนี้โพสต์ข้อความว่า “ ทำยังไงดี???คือเดือดร้อนมากค่ะ ป้าข้างบ้านแกเลี้ยงนกพิราบ ทุกวันเวลาบ่ายๆ จะออกมาให้อาหารนก เดือนร้อนมาก เพราะนกเยอะมากๆ เวลามันบินมาเป็นฝูง คือหายใจไม่ได้เลย ในอากาศจะมีแต่ขนนก เต็มไปหมด ขนลอยเข้าบ้าน กินข้าวยังไม่กล้ากินเลย เคยไปบอกป้าหลายรอบแล้ว ว่าให้เลิกให้อาหารนกได้ไหม “ป้าบอกว่า มายุ่งอะไรกับฉัน” แล้วเดินหนีเข้าบ้าน เพราะแต่ก่อนแกจะเทอาหารนกไว้หน้าบ้านข้างล่าง เราเคยแอบเอาอาหารไปเททิ้ง พอแกรู้แกเลยเปลี่ยนที่ให้ไปให้บนบ้านแทนแจ้งเขตหลักสี่ไปหลายครั้งแล้ว แต่ได้คำตอบว่า ไม่ใช่หน้าที่ไปจับนก. แล้วจะให้ไม่ใช่หน้าที่ได้ไง นี้มันเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่ดูแล มันเป็นเรื่องของพลานามัย และเสียสุขภาพจิต กลัวจะติดโรคจากนกพิราบ คือมันสุดๆต้องมาเห็น”
ทีมข่าวลงพื้นที่ในชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง ย่านหลักสี่ พบเป็นอาคารพทนิช 2 ชั้น บริเวณชั้น2และหลังคามีนกพิราบบินเกาะอยู่จำนวนมาก พร้อมกันกับที่วันนี้ เจ้าหน้าที่เขตหลักสี่ลงพื้นที่ชี้แจงห้ามป้าเดือน วัย 70 ปี คุณป้าใจบุญที่เป็นคนให้อาหารนกพิราบ ขอความร่วมมือป้าเดือนห้ามให้อาหารนกพิราบอีก ซึ่งป้าก็รับปากจะทำตาม หลังจากนี้จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมขยับขยายนกพิราบไปอยู่ที่อื่น และนำป้าเดือนไปลงบันทึกปากคำที่เขต ให้รับทราบข้อปฏิบัติ หากพบฝ่าฝืน มีความผิดทั้ง 2 พรบ โดยโทษของ พรบ รักษาความสะอาดปรับ 2000 บาท โทษของ พรบ. สาธารณสุข จำคุก 3 เดือน ปรับ 25000 บาท
ทีมข่าวได้พูดคุยกับป้าเดือน ป้าบอกว่า ด้วยความที่เป็นคนรักสัตว์ ให้อาหารสุนัขหน้าบ้านมานานหลาย10ปี แล้วนกพิราบมาทานแรกๆมาแค่ 2-3ตัว ซึ่งให้อาหารเพียงนิดเดียว แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานกพิราบเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจึงต้องให้อาหารเยอะขึ้น โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าการให้อาหารนกพิราบมีความผิด และหลังให้อาหารทั้งชั้นบน ชั้นล่าง จะทำความสะอาดตลอด ยืนยันต่อจากนี้จะไม่ให้อีกแล้ว
ส่วนเพื่อนบ้านติดกันที่เปิดเป็นร้านขายน้ำแข็งบอกว่า ป้าเดือนให้อาหารนกพิราบมานานหลาย10ปี แรกๆก็ให้ไม่มาก จนเมื่อ2-3 ปี ให้เยอะขึ้นตามจำนวนเคยบอกป้าเดือนแล้วว่าอย่าให้เพราะสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน แต่กลับถูกป้าเดือนต่อว่า ทั้งยังกระทบต่อครอบครัวตน ทั้งปัญหาสุขภาพ ปัญหาสิ่งแวดล้อมถึงขั้นที่ไม่สามารถเปิดถังน้ำแข็งขายให้ลูกค้าได้เลย เพราะทั้งขนนกและฝุ่นจากเศษอาหารขนของนกพิราบที่ร่วงลงมาจะคกลงในถังน้ำแข็ง บ้างก็ปลิวติดใบหน้า เข้าจมูก แต่ป้าเดือนก็ไม่ฟัง วันนี้รู้สึกสบายใจในระดับหนึ่งที่ทางเขตลงมาแก้ปัญหาให้
และ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เขตหลักสี่ก็ได้ ทำความสะอาดพร้อมราดน้ำยาฆ่าเชื้อพื้นที่โดยรอบแล้ว