ชั่วช้าสามานย์! “ตา-น้าชาย”ข่มขืนหลานสาววัย15-16 มานานกว่า 5 ปี โดยมียายเป็นใจ จนศาลออกหมายจับ หลังจากแฟนหนุ่มของหนึ่งใน 2 คน ทราบเรื่อง จึงได้พาผู้เสียหายทั้ง 2 คน เข้าแจ้งความ โดยเพจดังนำภาพผู้ต้องหามาโพสต์หวังให้ชาวเน็ตแจ้งเบาะแส ล่าสุด ตำรวจกำลังเร่งล่าตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ยังหลบหนีอยู่
เพจกะโหลกแดง นำภาพของตา วัย 83 ปี และน้าชาย วัย 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชัยภูมิ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา หญิงสาว วัย 15 และ 16 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ และอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันมานานกว่า 5 ปี ซึ่งในบ้านหลังนี้อยู่ในตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ภายในบ้านนี้มีหญิงสาวอยู่ 3 คน อายุ 16 ,15 และ 12ปี โดยมียายของผู้เสียหายรู้เห็นเป็นใจให้ความสนับสนุนผู้เป็นตา และน้าชาย ในการกระทำความผิด ส่วนเด็กหญิงวัย 12 ปี หากโตมากกว่านี้ ก็คงไม่รอด
ภายหลังจากที่หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกข่มขืน มีชายหนุ่มมาจีบ ซึ่งชายหนุ่มก็ได้สังเกตถึงพฤติกรรมของแฟนสาว จนกระทั่งแฟนสาวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง จึงได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ และได้ประสานให้บ้านพักเด็กจังหวัดชัยภูมิเข้ามารับผู้เสียหายทั้ง 2 คน และเด็กหญิงวัย 12 ปี ไปดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมาอีก
ซึ่งทางทีมข่าวไบรท์นิวส์ได้สอบถามไปยัง พันตำรวจโท ชัยวัฒน์ ใจสบาย รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดชัยภูมิ ได้รับผู้เสียหายทั้ง 2 คนไปดูแล พร้อมทั้งพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลว่าถูกข่มขืนจริงหรือไม่ จนแพทย์ได้ยืนยันว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 คน ถูกข่มขืนจริง ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทางตำรวจได้เชิญตัวผู้เสียหายทั้ง 2 คน มาสอบสหวิชาชีพ และได้รวบรวมหลักฐาน และศาลจังหวัดชัยภูมิได้อนุมัติหมายจับ ตา และน้าชาย ที่ก่อเหตุข่มขืนหลานสาวของตนเอง ซึ่งในขณะนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังคงหลบหนีอยู่ และจากการข่าวเชิงลึกทราบว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนหลบหนีไปยังจังหวัดระยอง ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
สำหรับการสอบสหวิชาชีพผู้เสียหายทั้ง 2 คน ไม่ได้ให้ข้อมูลถึงคนในครอบครัวมีส่วนรู้เห็นในการปล่อยให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนร่วมกระทำผิดแต่อย่างใด และนี่จึงเป็นเหตุผลที่เพจกะโหลกแดงนำภาพ และข้อความดังกล่าวมาโพสต์ เพื่อให้ชาวเน็ตช่วยกันแจ้งเบาะแสของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในการให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป