นายกฯ เผยแจกเงิน 1,500 บาทหนุนเที่ยว “เมืองรอง” ระบุยังเป็นเพียงการศึกษา พร้อมย้ำจำเป็นต้องกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ หลังสงครามการค้าโลกกระทบภาคส่งออก
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีการแจกเงิน 1,500 บาท เพื่อท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ว่า หลายอย่างรัฐบาลยังไม่ดำเนินการ แต่สื่อมวลชนนำเสนอเยอะแยะไปหมด ทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ทั้งการเมือง ค่าใช้จ่าย แล้วก็ตีกลับมาที่รัฐบาล และที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะมีมาตรการต่างๆออกมานั้น ขอบอกว่ายังเป็นเพียงการศึกษาและปรึกษาหารือกัน
“เรื่องการท่องเที่ยวเมืองรอง สื่ออย่ามาถาม มันยังไม่มีข้อสรุปอะไรออกมาเลย บางทีเป็นเรื่องแค่การหารือกันเพื่อหาข้อสรุปให้ได้ ยืนยันว่ายังไม่ได้ข้อยุติ เพราะมีหลายอย่างเกี่ยวข้องไม่ใช่ให้เงินแล้วจบ ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้องเช่นเรื่องของภาษี ซึ่งคณะกรรมการกำลังพิจารณาอยู่ ขอร้องทุกคนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า อย่าลืมว่ารัฐบาลนี้ก็คือรัฐบาล รัฐบาลต้องทำหน้าที่ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีครม.ใหม่ และเมื่อมีการถวายสัตย์เราก็จะหมดหน้าที่ แต่ในระหว่างนี้ประเทศเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ งานต่างๆ ไม่สามารถหยุดได้ ขอให้เข้าใจตรงนี้ รัฐบาลพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยการทำให้เงินเหล่านี้ลงไปในพื้นที่ต่างๆเพื่อให้เกิดการผลิต
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและไม่ทำให้เกิดผลกระทบไปถึงประชาชน รัฐบาลจึงต้องหามาตรการที่เหมาะสม แต่ก็ต้องระมัดระวังในข้อกฎหมายทุกประการ โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ
“เศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการส่งออก เมื่อโลกมีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ มีสงครามการค้า ก็จะส่งผลกระทบต่อยอดการส่งออก จึงจำเป็นต้องเพิ่มการใช้จ่ายในประเทศ ถ้าทุกคนไม่กล้าใช้เงิน ไปยุ่งแต่กับเรื่องการเมือง ทุกอย่างจะหยุดไปหมด แล้วรัฐบาลจะทำอะไรได้ วันนี้อยากขอร้องประชาชนทุกคนที่มีขีดความสามารถในการใช้จ่ายเงินต้องช่วยกัน มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ส่วนคนที่ไม่มี รัฐบาลก็จะดูแลให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้”นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า รัฐบาลนี้ระมัดระวังอย่างเต็มที่ ทำงานทุกอย่างด้วยความรอบคอบ หลายอย่างคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแก้แบบนี้ แต่เราจำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นระบบเพื่อไม่ให้เป็นภาระรัฐบาลต่อๆไป เหมือนกับที่ปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นมาก่อนรัฐบาลนี้ แต่เราต้องมาแก้ปัญหา ทั้งปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ปัญหาสิทธิประโยชน์ การร่วมลงทุนการค้า เพราะทุกอย่างรัฐบาลเป็นคู่สัญญาทั้งสิ้น เมื่อเกิดปัญหารัฐบาลต้องรับผิดชอบและแก้ปัญหาให้ได้