“บิ๊กโจ๊ก” ส่งทีมบินเก็บหลักฐานถึงอังกฤษ คาดปิดคดีแหม่มเกาะเต่า เร็วๆ นี้ 

วันนี้ (16 ตุลาคม 2561) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เตรียมแถลงข่าวคดี นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษวัย 19 ปี โดนขืนใจขณะมาท่องเที่ยวบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

ซึ่งตำรวจได้เร่งตรวจสอบและเช็กวงจรปิด โดยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท.ในขณะนั้น ได้เข้ามาตรวจสอบคดีนี้ด้วยตัวเอง ก่อนเช็กข้อมูลในทุกประเด็น ทั้งพยานบุคคล รวมถึงการจำลองสถานการณ์ ทั้งน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งลักษณะทางกายภาพ จุดที่ผู้เสียหายชาวอังกฤษบอกว่านั่งดื่มกินอยู่ระดับน้ำขึ้นสูง โดยระบุว่านั่งอยู่บนหาดทราย ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 14 ค่ำ ช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง แต่จุดนั้นจะมีน้ำขึ้นสูงถึงหน้าร้าน ไม่มีใครไปนั่งได้ เพราะน้ำสูงถึงเข่า

โดยยังมีประเด็นที่เหยื่อสาวให้การอีกว่าถูกมอมยาจากจุดนั้น แล้วพาไปข่มขืนที่โขดหินหรือลานหินระยะทางเกือบ 300 เมตร โดยวันนั้นเป็นวันที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกคู่สำคัญ ทำให้ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยมีมากกว่าปกติ ประชาชนก็มีมากกว่าปกติ การที่จะอุ้มใครไปบนทะเลที่มีพระจันทร์เต็มดวงแสงไฟส่องสว่างชัดจะเห็นภาพชัดเจน ถ้ามีการอุ้มคนเดินจะต้องมีคนเห็น

นอกกจากนั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ส่งทีมสืบสวนบินไปประเทศอังกฤษ เพื่อสอบปากคำเหยื่อสาวและตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าของเหยื่อสาว และหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม ก่อนนำข้อมูลและคำให้การกลับมาสรุปถึงความคืบหน้าคดี

ทำให้ในส่วนของคดี เจ้าหน้าที่จึงยุติเพียงเท่านี้ เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และคำให้การสอบปากคำว่ามีเหตุมอมยาข่มขืนขึ้นจริง เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน จึงเตรียมแถลงปิดคดีนี้ หลังก่อนหน้านี้ ได้ออกหมายจับเจ้าของ 2 เพจคือ เพจสมุยไทม์ และเพจ CSI LA ฐานทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย