ศาลอุทธรณ์ สั่งยกฟ้อง “แทน เทือกสุบรรณ” และพวก บุกรุก “เขาแพง” เหตุพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัย
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร , นายสามารถ หรือ โกเข็ก เรืองศรี , นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายสุเทพ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางป่า หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2518 มาตรา 22
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2556 บรรยายพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 27 ก.ย. 2543-5 และ ต.ค. 2544 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ้วถางป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา โดยจำเลยที่ 3-4 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ้วถางป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 14 ไร่ ด้วยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 3 และ 4 คนละ 3 ปี และจำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 คนละ 5 ปี นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า การทำลายป่าไม้เป็นการทำให้เกิดความแห้งแล้งและพิบัติจากน้ำป่าไหลหลาก สภาพความผิดจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ จำเลยขอประกันตัวและยื่นต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือโดยละเอียดรอบคอบ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสี่ ทุกข้อหา