ศาลสั่งจำคุก 1 เดือน “หนุ่มแมสเซ็นเจอร์”ขับรถบนทางเท้าชนนักเรียนบาดเจ็บ สารภาพ เปลี่ยนเป็นกักขังแทน ไม่รออาญา เหตุไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 2 (รัชดา) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “นายภูวดล ศรีสำโรง” อายุ 23 ปีเศษ อาชีพรับ-ส่งเอกสาร (แมสเซ็นเจอร์) ที่ขี่รถจักรยานยนต์ชนเด็กนักเรียนหญิง โรงเรียนบดินทรเดชา 3 บนทางเท้าได้รับบาดเจ็บ เป็นจำเลย ในความผิดฐานผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและจิตใจ และข้อหาอื่น
จากกรณี เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2561 จำเลยได้ขี่รถ จยย. ทะเบียน 6 กฎ 6283 กทม.ไปตาม ถ.ลาดพร้าว จากทาง ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าไปทาง ซ.ลาดพร้าว 112 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังที่ต้องมีตามวิสัย ซึ่งจำเลยได้ขี่รถมาตาม ถ.ลาดพร้าว ด้วยความเร็ว เมื่อไปถึงบริเวณป้ายรถประจำทางใกล้ปาก ซ.ลาดพร้าว 69 ได้ชนเด็กนักเรียน ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดที่สะโพก และแผลถลอกที่บริเวณขาทั้งสองข้าง
“ศาล” พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว จึงพิพากษาว่า “จำเลย” มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 , พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43
ให้จำคุก 2 เดือน โดยจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 เดือน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังเป็นเวลา 1 เดือน (กักขังในสถานที่กักขัง ซึ่งไม่ใช่เรือนจำ)
เมื่อ “ศาล” พิเคราะห์รายงานสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว เห็นว่า “ทางเท้า” ใช้เป็นที่สำหรับคนเดิน โดยกฎหมายดังกล่าวห้ามขับรถบริเวณทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ดังนั้นการที่ “จำเลย” ขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วบนทางเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้ใช้ทางเท้า จนเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้เสียหายซึ่งเดินบนทางเท้าได้รับอันตรายแก่กาย ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลย
จำเลยได้ยินคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี “ศาล” พิจารณาแล้ว ก็มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว “นายภูวดล” จำเลยไประหว่างจะอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 18,000 บาท ซึ่งจำเลยได้นำเงินสดมาวางเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว.
