ศาลอ่านคำพิพากษา15 ชม. คดีทุจริต สจล.-ฟอกเงิน ร่วม 100 ล้าน คุก 203 ปี ส่วน “ถวิล” รอดยกฟ้อง

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2561 ศาลจังหวัดมีนบุรีอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) 3 สำนวน ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 11 (อัยการจังหวัดมีนบุรี) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยทั้งหมด 14 คน ประกอบด้วย

นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 43 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ จำเลยที่ 1, น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สจล. จำเลยที่ 2 , นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 30 ปี จำเลยที่ 3, น.ส. จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ อายุ 30 ปี จำเลยที่ 4 , นายสมบัติ โสประดิษฐ์ อายุ 47 ปีจำเลยที่ 5 , นางระดม มัทธุจัด อายุ 58 ปี จำเลยที่ 6 , นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ อายุ 35 ปี จำเลยที่ 7,

นายภาดา บัวขาว อายุ 31 ปี จำเลยที่ 8 , นายถวิล พึ่งมา อายุ 64 ปี อดีตอธก. สจล.จำเลยที่ 9 , นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อายุ 54 ปี อดีต ผช.อธก. จำเลยที่ 10 , นายสลุต ราชบุรี อายุ 57 ปี จำเลยที่ 11 , นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด จำเลยที่ 12 , นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ จำเลยที่ 13 และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ จำเลยที่ 14    ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม , ร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม , เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือผู้อื่นโดยทุจริต , เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด , ร่วมกันฟอกเงิน , สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต , สนับสนุนพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 264, 265, 266, 268, 335, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, 4, 8, 11 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 7, 10 , 60

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.- 12 พ.ย.55 ต่อเนื่ิองในปี 2557 พวกจำเลยได้ร่วมกันยักยอกทรัพย์เบียดบังทรัพย์ 689 ล้านบาทเศษ ของ สจล.ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และยังร่วมกันฟอกเงิน 303 ล้านบาทเศษด้วย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยนายถวิล และกลุ่ม อาจารย์ สจล. รวม 3 คน ได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี

ทั้งนี้ศาล ได้เบิกตัจำเลยทั้งชาย-หญิงที่ถูกคุมขังมาจากเรือนจำพิเศษมีนบุรี 11คน รวมถึงจำเลยที่ได้รับการประกันตัว 3 คน มาฟังคำพิพากษา โดยศาลได้เริ่มอ่านตำพิพากษาตั้งแต่ 08.00น. ของวันที่ 25 ธ.ค.  จนถึง 01.00น.ของวันที่ 26 ธ.ค. 2561 โดยใช้เวลาอ่านคำพิพากษา 15ชม.

 

โดย “ศาล” ได้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ของ นายทรงกลด อดีตผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ จำเลยที่ 1 และ น.ส.อำพร ผอ.ส่วนการคลัง สจล.จำเลยที่ 2 ซึ่งศาลรับฟังพยานหลักฐานอัยการโจทก์ และ สจล.โจทก์ร่วมแล้วรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันใช้ทั้งอำนาจในหน้าที่และในฐานะส่วนตัวฉ้อฉล ลักทรัพย์เงินจากบัญชี สจล.ไปเมื่อเดือนธ.ค.57 ยอดแรกกว่า 80 ล้านบาท และยังร่วมกับนายพูนศักดิ์ จำเลยที่ 3 ฟอกเงิน ที่จำเลยที่ 3 ได้เปิดบัญชีรับฝากเงินไว้แล้วมีการโอนเงินยอด 55 ล้านบาท ไปเพื่อประโยชน์ของพวกตนเอง

สำหรับการกระทำของ “นายทรงกลด” จำเลยที่ 1 เป็นความผิดตามฟ้องฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง , ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม , ปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม กับฟอกเงิน จำคุกรวม 193 ปี 8 เดือน คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก 145 ปี 3 เดือน โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 10 ปี ดังนั้นเมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกทั้งสิ้น 50 ปี และให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินคืน สจล.โจทก์ร่วมที่ 1 ตามแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ รวม 80 ล้านบาท และคืนเงิน ธ.ไทยพาณิชย์ โจทก์ร่วมที่ 2 อีก 636,795,884.80 บาท

ส่วน “น.ส.อำพร” อดีต ผอ.ส่วนการคลัง สจล. จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรฯ ด้วย มาตรา 4,8 รวมจำคุกทั้งสิ้น 203 ปี ลดโทษ 1 ใน 4 คงจำคุก 152 ปี 3 เดือน โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 10 ปี ดังนั้นเมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกทั้งสิ้น 50 ปี โดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมจำเลยที่ 1 ชดใช้เงินคืน สจล.โจทก์ร่วมที่ 1 ตามแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ รวม 80 ล้านบาท และคืนเงิน ธ.ไทยพาณิชย์ โจทก์ร่วมที่ 2 อีก 608,675,884.80 บาท

ส่วนนายพูนศักดิ์ จำเลยที่ 3 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 12 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 9 ปี , น.ส.จันทร์จิรา จำเลยที่ 4 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 4 ปี 6 เดือน , นางระดม มัทธุจัด จำเลยที่ 6 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 18 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 13 ปี 6 เดือน

นายจริวัฒน์ จเลยที่ 7 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 12 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 9 ปี,
นายสรรพสิทธิ์ อดีตผช.อธก. จำเลยที่ 10 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 33 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 24 ปี 9 เดือน ให้ร่วมจำเลยที่ 1 และที่ 2 คืนเงิน ธ.ไทยพาณิชย์ โจทก์ร่วมที่ 2 อีก 55,972,785.80 บาท, นายสลุต จำเลยที่ 11 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 12 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 9 ปี

นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด กก.บริษัทมัทธุจัด จก. จำเลยที่ 12 ที่รับโอนเงินจากการฉ้อฉลเข้าบัญชี ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 36 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 27 ปี โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 3 ปีแต่ไม่เกิน 10 ปีดังนั้นเมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกทั้งสิ้น 20 ปี

นายสมพงษ์ จำเลยที่ 13 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 4 ปี 6 เดือน และนายธวัชชัย จำเลยที่ 14 ให้จำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกทั้งสิ้น 4 ปี 6 เดือน ขณะที่ศาล มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนายสมบัติ จำเลยที่ 5 , นายภาดา จำเลยที่ 8 , นายถวิล พึ่งมา อดีตอธก.สจล. จำเลยที่ 9

ภายหลังฟังคำพิพากษา “นายถวิล พึ่งมา” อดีต อธิการ สจล . กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังนั่งฟังคำพิพากษายาวนานกว่า 15 ชม. ว่า รู้สึกโอเค ขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ซึ่งตนไม่ได้กระทำผิด หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ ก็พร้อมสู้คดี ส่วนคดีที่ตน กับพวกถูกอัยการยื่นฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนั้น ฐานยักยอกทรัพย์ สจล. และความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานในองค์การของรัฐตนก็ไม่รู้สึกหนักใจอะไร เพราะตนไม่ได้กระทำผิดแต่อย่างใด
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ “นายถวิล” เดินทางกลับพร้อมครอบครัวบุตรชายและบุตรสาว

ขณะที่จำเลยทั้ง 11 คนที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก ญาติของจำเลยรวม 8 คน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวทันที โดยจำเลยที่ 1,2,3 ยังไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ซึ่ง”นายอภิชาติ เทพหนู” ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมีนบุรี พิจารณาแล้วจึงเห็นควรให้ส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งต่อไป

โดยนายอภิชาติ  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมีนบุรี กล่าวย้ำว่า การพิจารณาคำร้องก็เน้นในเรื่องสิทธิเสรีภาพของจำเลย ในคืนนี้จึงได้แจ้งกับญาติจำเลยทุกคนให้ทราบว่าถึงสิทธิการยื่นประกัน ซึ่งตามขั้นตอนก็จะส่งสำนวนคดีพร้อมคำพิพากษาให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาทันทีเช้าวันที่ 26 ธ.ค.นี้

 

 

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

จัดอันดับ! ชื่อเสียงของเหล่าซุปตาร์เกาหลี ประจำเดือนเมษายน

ไม่ต้องรอกันนานตอนนี้ได้ประกาศอันดับชื่อเสียงสำหรับโมเดลโฆษณาประจำเดือนเมษายน ใครที่จะคว้าใจของคนทั้งประเทศต้องรอดูเลย!

“ไอรีน Red Velvet” ปล่อยคลิปโปรโมตงานนิทรรศการภาพถ่ายครั้งแรก!

นักร้องสาว “ไอรีน Red Velvet” จัดนิทรรศการภาพถ่ายของตัวเองเป็นครั้งแรก พร้อมมีเซอร์ไพร์สของขวัญสุดพิเศษให้แฟน ๆ ได้ตาลุกวาว

ปารีณา น้ำตาซึม! คู่กัดในสภา เสรีพิศุทธ์ – เจี๊ยบ อมรัตน์ ร่วมอาลัยคุณพ่อทวี

ปารีณา ไกรคุปต์ น้ำตาซึมไม่คาดคิดว่าคู่กัดในรัฐสภา อย่าง เสรีพิศุทธ์ – เจี๊ยบ อมรัตน์ จะมางานศพ ร่วมอาลัย คุณพ่อทวี ไกรคุปต์

โคตรโหด! พ่อโมโห ลูกไม่ยอมบวชหน้าไฟ เตะอัดหน้าลูกจนสลบ

พ่อหัวร้อน โมโหลูกไม่ยอมบวชหน้าไฟ งานศพยาย เพราะใกล้เป็นเทอม เตะอัดหน้าลูกจนสลบคาเท้า ก่อนต่อยญาติเจ็บอีก 2 ราย

OMG! เน็ตไอดอล จัดซีทรูแซ่บ โชว์เรือนร่างเร่าร้อน แหวกเว้าบั้นท้ายเด็ดไม่ไหว

โอ้โห! เน็ตไอดอลชื่อดัง จัดซีทรูสุดแซ่บ โชว์เรือนร่างเร่าร้อนกลางชายหาด แหวกเว้าบั้นท้ายเด็ด จนทำใจระทวย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า