สธ.มั่นใจ ระยะเวลา 5 ปี ผลิต วิจัย และจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์คุณภาพเทียบเท่าต่างชาติได้แน่ ยันระหว่างยังไม่เลิกสิทธิบัตรที่ต่างชาติยื่นขอ ยังวิจัย “กัญชา” ได้ แต่การใช้ในคนต้องกฏหมายยาเสพติดออกมาก่อน แนะ ม.รังสิตร่วมมือกับภาครัฐเพื่อเดินหน้าวิจัยกัญชา
ตามที่คณะรัฐมนตรี( ครม.) เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. … ฉบับเสนอโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว เป็นการคลายล็อกกัญชา เพราะยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 อยู่ เพียงแต่นำมาใช้วิจัย ผลิตยารักษาโรคได้ เนื่องจากประเทศไทยได้ลงนามความร่วมมือให้กัญชาเป็นยาเสพติดเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก และทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็ยังอยู่ในพันธะนี้ การปลดล็อกกัญชาจึงยังเป็นไปไม่ได้ แต่เพื่อประโยชน์ของคนไทยโดยคนไทย สธ.จึงเสนอ สนช.ขอเวลา 5 ปี ในการผลิต วิจัย และจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งต้องทำโดยหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนที่ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าเวลา 5 ปี จะสามารถพัฒนาสายพันธุ์และสารสกัดออกมาเป็นยาเพื่อใช้ประโยชน์ได้ โดยคุณภาพเท่าของต่างประเทศ แต่มีราคาถูกกว่า จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศ
ส่วนที่ภาคประชาชนมีข้อเรียกร้องให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยื่นฟ้องร้องต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ให้ต่างชาติยื่นขอสิทธิบัตร นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ต้องไปคุยรายละเอียดก่อน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กับส่วนพัฒนาวิจัยกัญชาหารือร่วมกันอยู่ สนช.เองก็รับทราบปัญหา ซึ่งคงไม่ถึงขั้นฟ้องร้องกันเอง ทางออกคือต้องหารือร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของคนไทยโดยแท้จริง ซึ่งระหว่างยังไม่ยกคำขอสิทธิบัตรกัญชา ยังสามารถนำกัญชามาวิจัยได้ แต่การใช้ในคนยังต้องรอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดออกมาก่อนจึงจะใช้ได้ ส่วนมหาวิทยาลัยรังสิตซึ่งเป็นเอกชน คงต้องมาร่วมกับหน่วยงานรัฐ ทุกอย่างมีทางออก