คุมผู้ต้องรายสุดท้ายคดีปล้นร้านรับจำนำเพชรทำแผน อ้างไม่มีเงินใช้ และได้ส่วนแบ่งแค่ 1 หมื่นบาท ก่อนกบดานจ.กาญจนบุรี
ความคืบหน้ากรณี 3 คนร้ายใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนลูกโม่และอาวุธมีด เข้าไปก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย นายศิริชัย อาศัยพาณิชย์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านรับซื้อและรับจำนำเพชรพลอยอัญมณี ชื่อร้านศิริชัย ปากซอยเพชรเกษม 63 จนได้รับบาดเจ็บก่อนปล้นทรัพย์เป็นเครื่องเพชร และทรัพย์สิน รวมทั้งสิ้น 141 รายการ มูลค่าราว 4.7 ล้านบาทไป เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 รายคือ นายนพอนันต์ ภูษิตรุ่งโรจน์ หรือ “ชาย” อายุ 53 ปี หัวโจก และนายวุฒิชัย ล้านเหรียญทอง หรือ “เจษฎา” อายุ 32 ปี ผู้ที่ใช้ปืนปลอมตบผู้เสียหาย พร้อมยึดของกลางได้เกือบทั้งหมด จากนั้นเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.เพชรเกษม ตามจับกุมนายอาว จอ มู หรือ “ต้นรัก” อายุ 36 ปี ชาวเมียนมาผู้ต้องหารายสุดท้ายได้แล้ว หลังหนีกบดานบริเวณแนวชายแดนจ.กาญจนบุรี
ล่าสุด 9 พ.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอาว จอ มู ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านศิริชัย ปากซอยเพชรเกษม 63 โดยเริ่มจากเข้าไปในร้านแล้วทำหน้าที่กอดรัดผู้เสียหายให้ นายนพอนันต์และ นายวุฒิชัย ช่วยกันทำร้ายจากนั้นก็ช่วยกันโกยทรัพย์สินใส่กระเป๋าพากันหลบหนีออกมา ขึ้นจยย.ที่จอดอยู่เลยหน้าร้านไป และจุดสุดท้ายที่ทำการแบ่งทรัพย์สินหลังก่อเหตุภายในซ.เพชรเกษม63 ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำแผนในร้านเสร็จสิ้นนายอาว จอ มู ได้ยกยกมือไหว้กล่าวคำขอโทษนายศิริชัย โดยบอกว่าที่ทำลงไปเพราะไม่มีเงินใช้
นายต้นรัก ให้การว่า ตนได้ขับรถจักรยนต์เพื่อพานายนพอนันต์มารวมตัวกันเพื่อนับทรัพย์สินที่ห้องพัก ขณะที่นายวุฒิชัยเดินทางมายังห้องพักช้ากว่าตนประมาณ 10 นาที ตนจึงเกิดความสงสัยว่าหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ น่าจะซุกซ่อนทรัพย์สินบางส่วนไว้ เนื่องจากเมื่อนับทรัพย์สินหลังก่อเหตุกลับพบว่ามีเพียง 50 กว่ารายการเท่านั้น โดยส่วนแบ่งที่ตนได้มา คือ แหวนทองคำ 5 วง และนาฬิกา ฝากให้เพื่อนช่วยนำไปจำนำ โดยได้เงินมาประมาณ 10,000 บาท ก่อนจะนำเงินจำนวนดังกล่าวหลบหนีไปที่จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนที่ตนได้ส่วนแบ่งน้อยกว่าคนอื่นนั้น เนื่องจากผู้ต้องหาที่เหลืออ้างว่ารู้จักแหล่งที่สามารถนำทรัพย์สินไปขายได้ราคา
ด้าน พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวถือว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วทั้งหมด และรับทราบตลอดข้อกล่าวหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกตัวบุคคล ที่นำแหวนของนายต้นไปจำนำที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่งมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ส่วนการติดตามทรัพย์สิน ขณะนี้จากการตรวจสอบยอดทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปมีจำนวน 141 รายการและยึดคืนมาได้แล้ว 108 รายการ โดยสำหรับทรัพย์สินที่หายไปอยู่ระหว่างให้ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาของกลาง โดยพรุ่งนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังเวลา 08.00 น.