นายประยุทธ์ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศชี้แจง ความคืบหน้าในคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนราย นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล โอไรบี ในฐานะอัยการสูงสุดเป็นผู้ประสานงานกลางตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดนพ.ศ. 2551 ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการต่างประเทศยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ขอให้ศาลพิจารณา และมีคำสั่งส่งตัว นายฮาคีม ให้กับราชอาณาจักรบาห์เรน ประเทศผู้ร้องขอ เนื่องจากได้รับแจ้งว่า นายฮาคีม เป็นจำเลยและถูกดำเนินคดีอาญาในราชอาณาจักรบาห์เรนแล้วหลบหนีออกมา
โดยสำนักงานอัยการสูงสุดชี้แจงถึงขั้นตอนการปฏิบัติในคดีดังกล่าวคือ
1.เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 สำนักงานอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางของประเทศไทย ไปรับเรื่องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากราชอาณาจักรบาห์เรน ผ่านกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อพิจารณาและมีคำสั่งส่งตัวนายฮาคีม
2. สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับเรื่อง และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้องพบว่า นายฮาคีม ถูกดำเนินคดีที่ศาลอาญากลางเขต 1 แห่งราชอาณาจักรจากบาห์เรน ในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองซึ่งต่อมาศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี หลังจากนั้น นายฮาคีม ได้หลบหนีและถูกคุมตัวในประเทศไทย
3. ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้รับคำร้องขอให้พิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องของประเทศผู้ร้องให้ส่งตัวนายฮาคีม เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีอาญานั้น เป็นข้อกล่าวหาคดีอาญา ซึ่งเป็นการกระทำที่ได้บัญญัติให้เป็นความผิดตามกฏหมายของประเทศไทยด้วย และข้อหาต่างๆ มีอัตราโทษจำคุกไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และไม่ใช่ความผิดทางการเมือง หรือทางทหารจึงเข้าหลักเกณฑ์ และข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดนปี 2551
4. ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง จึงมอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อให้ศาลเบิกตัว นายฮาคีม มาพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย และต่อมาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 ศาลอาญาได้เบิกตัว นายฮาคีม เพื่อสอบปากคำโดย นายฮาคีม ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดและไม่ยินยอมกลับไปที่บาห์เรน โดยศาลอาญามีคำสั่งให้นายฮาคีม และทนายยื่นคำคัดค้าน คำฟ้องเข้ามาในวันที่ 5 เมษายน 2562 และนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายในวันที่ 22 เมษายน 2562
โดยนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุดยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของประเทศไทยจุดยืนของรัฐบาลไทย จะไม่ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม และปฏิบัติเรื่องนี้ไปตามกรอบของกฎหมาย
ขณะที่นายชัชชม อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศยืนยันหมายแดงคือ หมายจับที่ทางการบาห์เรน แจ้งเตือนซึ่งประเทศไทยสามารถจับกุมตัวได้ตามที่ทางการ บาห์เรน ร้องขอ สำหรับการคัดค้านการประกันตัวนั้นเป็