“อุตตม-สนธิรัตน์” ยืนยันยังไม่จบดีลตั้งรัฐบาล ปัดเบี้ยว ปชป. ชิงโหวตเลือกนายกฯ ยันไม่คิดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ระบุหาก “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ ต้องมีส่วนร่วมดูตัวครม.
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำคนสำคัญ ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้การเดินหน้าเจรจากับพรรคแนวร่วมที่มีอุดมการณ์เดียวกันยังไม่ยุติ โดยมีหลักการใหญ่ คือ การจับมือร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย และการจัดสรรตำแหน่งตามนโยบายของแต่ละพรรคที่สอดคล้องกับเนื้องาน ยังไม่มีการกำหนดเก้าอี้หรือตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับพรรคการเมืองใด
นายอุตตม ยังปฏิเสธแนวคิดการชิงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไปก่อน โดยไม่รอเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้นายกรัฐมนตรียุบสภาในอนาคต พร้อมทั้งระบุว่า ไม่อยากให้คาดการณ์ล่วงหน้าว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาล เพราะทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา
นายอุตตม ยืนยันว่า ในส่วนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นกลไกภายในพรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่าสุดท้ายแล้วหาก พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องเข้ามาดูรายชื่อ ครม. เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ยังเป็นปัญหาความไม่ลงตัวอยู่ จะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
“พรรคไม่ได้เสียเปรียบ เพราะการต่อรองเป็นเรื่องปกติของการเมือง แต่อยากให้ทุกพรรคยึดมั่นประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกัน ส่วนการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลยังมีเวลา และไม่ได้ล่าช้ากว่ากำหนด แต่ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนเรื่องกรอบเวลาได้ โดยหลังจากนี้ จะประสานไปยังพรรคแนวร่วมอื่นๆ เพื่อพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ อาทิ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานเวลา”นายอุตตมกล่าว
นายอุตตม ยังย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะเห็นภาพการแถลงข่าวจับมือจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองแนวร่วมหรือไม่
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคมีความเป็นเอกภาพภายในพรรค ส่วนข่าวการจัดตั้งรัฐบาลที่ออกมามีทั้งจริงและไม่จริง เพราะมีผู้ได้และเสียผลประโยชน์ และขอย้ำว่าการตัดสินใจทางการเมืองเป็นกลไกภายในพรรค ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เกิดความรวดเร็ว ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคพลังประชารัฐได้รับข้อเสนอแต่ละพรรคพิจารณา