คดีหวย 30 ล้านคืบหน้าเป็นระยะ ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลางออกหมายเรียก แผน พยานอีกปากของฝั่งครูปรีชา รับทราบข้อกล่าวหา หลังให้การที่เป็นเท็จ โดยเฉพาะกรณีเห็นลุงจรูญก้มเก็บหวย แต่มากลับคำให้การ จนทำให้ลุงจรูญถูกตั้งข้อหา 2 คดี ขณะที่ ปปป.เตรียมเรียกครูปรีชา เจ๊เกียว และเจ๊พัช มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนคดีรัดกุมเพียงพอก่อนส่งอัยการ
พลตำรวจตรีชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ว่านายแผนจะถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จ หลังนายแผนกลับคำให้การว่า จำเลขล็อตเตอร์รี่ที่ รตท.จรูญ วิมูล ก้มเก็บไม่ได้ โดยนายแผนอ้างกับตำรวจว่า สายตาไม่ดีจึงเห็นตัวเลขไม่ชัดเจน แต่ที่จำหน้า รตท.จรูญ ได้ เพราะเคยเจอ รตท.จรูญ ไปทำธุรกรรมการเงินที่ธนาคารกรุงไทยสาขากาญจนบุรีบ่อยครั้ง
ส่วนนางกุ้ง ทางตำรวจกองปราบจะกันไว้เป็นพยาน เพราะให้การเป็นไปในทิศทางที่ดี ส่วนกรณีการใส่ชุดไทยมาซื้อล็อตเตอร์รี่วันที่ 27 ตุลาคม ได้หักล้างกับคำให้การที่ผ่านๆ มาของพยานฝั่งนายปรีชานั้น ทางรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ระบุว่า คดีนี้ผ่านมาหลายเดือน พยานหลายคนอาจจะจำคลาดเคลื่อนได้ แต่เพื่อความสมบูรณ์ของสำนวนคดี ในวันพฤหัสบดีนี้จะเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำอีก 1 รอบ ประกอบไปด้วย ปปป. เรียก เจ๊พัช เจ็เกียว และนายปรีชา ส่วนกองปราบเรียกนายแผนมาให้รับทราบข้อกล่าวหาให้การเท็จ
นอกจากประเด็นการเอาผิดของตัวละครฝั่งนายปรีชาแล้ว วันนี้ยังมีวาระการประชุมอีก 1 ประเด็น คือการเอาผิดกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ฐานความผิดตามมาตรา 157 ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนจนทำให้เกิดความยุ่งเหยิงว่า จะเข้าข่ายความผิดที่หมิ่นเหม่ต่อการถูกปลดให้พ้นจากการเป็นข้าราชการได้หรือไม่
คดีหวยอลเวงนี้อาจจะจบไวกว่าที่หลายคนตั้งข้อสังเกตก็ได้ เพราะล่าสุด ทีมข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ “ฟ้า” พยานปากสำคัญของฝั่งนายปรีชายืนยันมาว่า จะขอลดบทบาทจากการให้ข้อมูลใดๆ ฝั่งนายปรีชานับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขณะที่ทางกองปราบได้เรียกตัว เจ๊เกียวและเจ๊พัช เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นด้วย