ตำรวจเปิดยุทธการ สยบไพรี บุกรวบ “โต๊ด ลาดกระบัง” เอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินกว่า 9 ล้านบาท อ้างมีอาชีพซื้อขายโทรศัพท์มือสอง
13 พ.ค. 2562 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.(ปป) ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.กรณ์ณพัชญ์ กิตติพิบูลย์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส., พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1 บก.ข่าวกรองยาเสพติด บก.ปส.1 และ ชุดปฏิบัติการสยบไพรี ได้เข้าจับกุมนายจัตุรงค์ พึ่งพรหม หรือ โต๊ด ลาดกระบัง อายุ 26 ปี ที่อยู่ 122 ซอยหลวงแพร่ง 2 แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 501/2561 ลงวันที่ 3 ต.ค. 2561 ในข้อหา “สนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด(โดยการจัดการเรื่องเงินในการซื้อขายยาเสพติด) และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดที่ได้สมคบกัน”
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดทรัพย์สินบ้าน จำนวน 2 หลังมูลค่า 5,000,000 บาท รถยนต์จำนวน 3 คัน เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อบีเอ็มดับบิว รุ่นM4 สีขาวหมายเลขทะเบียน 2 งกว 840 กรุงเทพมหานคร รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 4กน6115 กรุงเทพมหานคร รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟรีช สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กถ1460กรุงเทพมหานคร มูลค่า 9,000,000 บาท รถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นKR 150 SE จำนวน 1 คัน สร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง จำนวน 2 เส้น กำไรทองฝังเพชร เลสทองฝังเพชร แหวนเพชร จำนวน 2 วง ต่างหูเพชร จำนวน 1 คู่ แหวนทองเกลี้ยง 1 วง เงินสด 5,000 บาท อาวุธปืน 11 มม. ยี่ห้อโคลท์ จำนวน 1 กระบอกนาฬิกา 7 เรือน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง กระเป๋าแบรนเนม 7 ใบ สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 3 เล่ม รวมมูลค่ากว่า20 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 19/211 ซ.ราษฎร์พัฒนา 15 ถ.ราษฎร์พัฒนา แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ตามยุทธการสยบไพรี 62/13 END GAME ภาค1 ตอนจุดจบซาตานเมืองกรุง ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หลายคดี เบื้องต้น พบว่า “โต๊ด ลาดกระบัง” หรือ นายจัตุรงค์ พึ่งพรหม มีความเชื่อมโยงกับการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญเป็นจำนวนมาก ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการจับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด หรือกลุ่มนักบิน ซึ่งมีนายโต๊ด เป็น ตัวกลาง หรือโบรกเกอร์ ที่มีขีดความสามารถในการจัดหายาเสพติดหลายชนิดในปริมาณมาก โดยจะทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับ เจ้าของยาเสพติด รับโควต้าจากกลุ่มนักค้าทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมสั่งสินค้าโดยตรงจากแหล่งผลิตทางด้านชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย พบเงินหมุนเวียนในบัญชีเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้าน
จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ยังพบว่า ผู้ต้องหามีความสัมพันธ์โดยตรงกับนักค้ายาเสพติดที่หลบหนี หมายจับของทางราชการไทย เช่น นายวัชรพงษ์ ซื่อตรง หรือ สจ.อยุธยา นายศดายุ เหลืองประดับใจ หรือ โน๊ต เขาใหญ่ และ นายวันเฉลิม กมลเลิศ หรือ โน๊ต ดินแดง โดย โต๊ด ได้สร้างเครือข่ายขึ้นมามีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ทั้งทางด้าน ยาเสพติด เส้นทางการเงิน การโอนเงินไปยังบัญชีที่ใช้รับโอนเงินยาเสพติดทางภาคเหนือ และมีการจัดหานอมินี มาทำหน้าที่ฟอกเงินและซื้ออสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ และสิ่งของมีค่าต่าง ๆ หลายรายการ
นายจัตุรงค์ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพซื้อขายโทรศัพท์มือสอง ที่เปิดร้านรับซื้อในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ละเดือนมีรายได้จากการค้าขายหลักแสนบาท ยืนยันสามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินได้ทุกอย่าง และยืนยันว่าไม่รู้จักกับโน๊ต ดินแดง หรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติด ส่วนรายละเอียดด้านอื่น ๆ ยังไม่ขอให้ข้อมูล
นายจัตุรงค์ เปิดเผยต่อว่า ตนเองเป็นบุคคลในชื่อที่ปรากฎตามหมายจับจริง แต่ยืนยันว่าตนเองชื่อนุ๊ก ไม่ได้ชื่อโต๊ด โดยรับว่าบ้านอยู่ย่านลาดกระบัง ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดตามที่ถูกตำรวจกล่าวหา และไม่รู้จักกับนักค้ายาเสพติด ตามรายชื่อที่ตำรวจพูดถึง ส่วนรถยนต์ทั้ง3 คันมีแฟนสาวเป็นเจ้าของและดูแลเรื่องการผ่อนชำระค่างวดรถซึ่งตนไม่ทราบว่ามีการผ่อนชำระหรือซื้อขายอย่างไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อแฟนสาวได้
ทั้งนี้ทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดยกองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด บก.ปส.1 และชุดปฏิบัติการสยบไพรี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาและยึดทรัพย์สินดังกล่าว โดยมีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อีก 12 จุด รวม 13 จุดตรวจค้น ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล