ศาลฎีกาฯ พิพากษายกฟ้อง “สมชาย,ชวลิต ,พัชรวาท ,สุชาติ ,” สั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ต.ค.ปี 51 โดยมิชอบ ให้เหตุผลว่า เป็นการทำตามมติคณะรัฐมนตรี ขณะที่มวลชนมารอฟังคำตักสินตะโกน “ฆาตกรๆ”
วันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจำเลย คดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อปี 2551 โดยมิชอบ ล่าสุด ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด 4 คน เพราะเห็นว่าเป็นการทำตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายสมชาย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 พร้อมส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องต่อศาล
อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุด เห็นว่า พยานหลักฐานทางคดียังไม่สมบูรณ์ จึงมีมติตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างฝ่ายอัยการ และ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ ใช้ระยะเวลายาวนานหลายปี กระทั่งไม่ได้ข้อยุติ ป.ป.ช. จึงถอนเรื่องจาก อสส. ดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอง และศาลฎีกาฯประทับรับฟ้องช่วงปี 2558 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ในช่วงศาลฎีกาฯไต่สวนคดีดังกล่าว นายสมชาย และจำเลยรวม 4 ราย เคยทำเรื่องถึงสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อขอแต่งตั้งพนักงานอัยการให้เป็นทนายความแก้ต่างคดีนี้ แต่ศาลฎีกาฯมีมติเสียงส่วนใหญ่ไม่อนุญาต เนื่องจากเห็นว่า พนักงานอัยการไม่มีอำนาจว่าความแก้ต่างในคดีนี้ได้
ต่อมา เมื่อปี 2559 นายสมชาย พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่ามีพยานหลักฐานใหม่ให้ไต่สวน จึงขอให้ถอนฟ้องเรื่องดังกล่าว และขอให้เปรียบเทียบคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อปี 2551 กับคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
หลังจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ท้ายสุดมีผลสรุปว่า จะไม่ดำเนินการถอนฟ้องคดีนี้ และพยานหลักฐานใหม่ดังกล่าวสามารถนำให้ศาลฎีกาฯไต่สวนเพิ่มเติมได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ คดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อปี 2551 มีความแตกต่างกับคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 เพราะปี 2553 มีการไล่ลำดับความรุนแรง และมีกฎหมายรองรับทุกขั้นตอน แต่ปี 2551 ไม่มีหลักกฎหมายรองรับ
ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว ขอบคุณ และทราบซึ้งใจ ที่สถาบันตุลาการเป็นพึงประชาชน ทุกอย่างเป็นไปตามคำวินิจฉัยศาล
ระหว่างนั้นกลุ่มมวลชนที่มารอรับฟังคำพิพากาษาเมื่อทราบผลการวินิจฉํยก็ไม่พอใจพร้อมตะโกนด่า “ฆาตกรๆ”