หลังจากที่มีการเชิญตัวเจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัท และนายแผน พยานปากเอกสำคัญ 3 ปากของฝั่งครูปรีชา ยาวนานกว่า 16 ชั่วโมง ก็ถือว่าข้อมูลที่ตำรวจได้นั้น มีทิศทางที่ดีขึ้น และทันทีที่ซักถามข้อมูลเสร็จสิ้น พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บัญชการตำรวจสอบสวนกลาง ก็เดินทางกลับกรุงเทพทันที เพื่อนำสำนวนไปเทียบเคียงกับสำนวนคดีเดิม โดยขณะนี้ มีกระแสว่าที่กองบังคับการปราบปรามอาจจะมีการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีในเร็วๆนี้
ด้านครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่ตำรวจลงน้ำหนักว่า สลากชุดนี้เป็นของร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล โดยครูปรีชาระบุว่า ไม่สนใจกระแสข่าวและยังเชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเป็นไปไม่ได้ที่เจ๊บ้าบิ่นจะกลับคำให้การกับตำรวจ พร้อมตอบโตประเด็นที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานเครือข่ายช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แฉว่ามีหลักฐานมัดตัวครูปรีว่าเป็นคนโกหก โดยย้ำว่ามีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย
ส่วนการทำสำนวนคดีใหม่ของ พลตำรวจโท ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะนี้ก็มีความคืบหน้าไปมากกว่า 80% ที่พอจะชี้มูลได้แล้วว่า ใครเป็นเจ้าของสลากฯ ส่วนกรณีการใช้จิตวิทยาในการเปิดโอกาสให้เจ๊บ้าบิ่นกลับคำให้การนั้น ก็พบว่าเจ๊บ้าบิ่นมีความเครียดในการตอบคำถาม
ทั้งนี้ พยานปากเอกทั้ง 3 ปากยังคงยืนยันให้การตามเดิม และสำนวนทั้งหมดจะถูกนำไปประชุมหารือต่อที่กองบังคับการปราบปรามอีกครั้ง โดยมีแนวโน้มว่า ตำรวจจะขอออกหมายจับกับผู้ที่ให้การเป็นเท็จด้วย ส่วนการซักถามถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและพยานรวมประมาณ 8 ปาก ตำรวจพบความเชื่อมโยงถึงการทำสำนวนของตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่ระดับร้อยเวรเจ้าของคดี สาราวัตรสอบสวน และระดับผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งผู้บังคับการตำรวจสอบสวนกลางมั่นใจว่า ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะจบเรื่องนี้