บรรยากาศในช่วงเช้าของตลาดย่านสวนหลวง ค่อนข้างซบเซาเมื่อเทียบกับช่วงเสาร์อาทิตย์ก่อน หลังมีคำสั่งให้ตลาด 3 แห่งในย่านสวนหลวง ยุติการค้าขายทั้งหมดภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ได้แก่ ตลาดสวนหลวง ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ส่วนตลาด เปิ้ลมาเก็ต กับตลาดยิ่งนรา จะยังคงเปิดขายตามปกติ ล่าสุด จากการสังเกตุ พบว่า พ่อค้าแม่ค้าบางส่วน ยังเอาของมาตั้งขาย แต่ก็มีหลายร้านที่ถอดใจไม่มาขายแล้ว พ่อค้าแม่ค้าหลายคนบอกว่า ปกติเสาร์-อาทิตย์จะมีลูกค้ามาเดินจำนวนมาก แต่เสาร์นี้ค่อนข้างน้อยลง หลายคนค้าขายที่นี่มาร่วมสิบปี เมื่อถูกสั่งปิดก็รู้สึกไร้ที่ไป ไม่รู้จะไปขายที่ไหนต่อ ต่างก็มีภาระที่ต้องดูแล ทำเลตรงนี้มีลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์อยู่มาก ขายมานานจนมีฐานลูกค้าประจำ หากต้องย้ายไปที่อื่นก็ต้องสร้างฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลานาน จากการสอบถามความเห็น มีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการปิดตลาด แต่ก็มีบางส่วนบอกว่ารู้สึกเข้าใจทั้งฝ่ายเจ้าของตลาดและป้าเจ้าของบ้าน ต่างเดือดร้อนกันทั้งคู่ เมื่อทางการตัดสินแบบนี้ ตนก็ต้องไปหาที่ขายใหม่
ในแง่ของความเดือดร้อน ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเท่านั้น มีชายคนหนึ่งออกมาแสดงตัวว่าเป็นบุตรชายที่พ่อต้องมาจบชีวิตเพราะนำส่งโรงพยาบาลไม่ทัน เนื่องจากติดรถที่มาซื้อของในตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้ป้าทุบรถได้มีการกล่าวถึง ทีมข่าวติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลผ่านแชต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 คุณธีรภัทร อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหลังตลาด วันเกิดเหตุคุณพ่อล้มหมดสติในบ้าน เป็นช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่มีคนมาเดินตลาดจำนวนมาก เมื่อเรียกรถพยาบาลมารับ ก็ใช้เวลานานกว่าจะเข้าออก เพราะทางออกต้องผ่านตลาด ทำให้ติดรถคนมาใช้จ่ายในตลาด ซึ่งมีการจอดซ้อนกันสองเลนบ้าง ขับช้าๆ บ้าง เมื่อเปิดกระจกขอทางอย่างเร่งรีบ ก็พบว่าผู้คนยังเดินเหมือนมาจับจ่ายตลาดปกติ ขับรถกันแบบไม่เดือดร้อนอะไร ตนจึงลงมาโบกเพื่อให้รถไปได้เร็วที่สุด แต่ก็กินเวลากว่า 30 นาที จนในที่สุดพ่อก็เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังได้เล่าต่อว่า เคยมีลูกค้าในตลาดนำรถมาจอดถึงในบ้าน เพราะตนเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ ตอนนั้นได้แต่รอเจ้าของรถมา เมื่อมาถึงเจ้าของรถก็บอกว่า เห็นเป็นที่ว่างเลยคิดว่าจอดได้ หลังจากนั้นตนจึงแก้ปัญหาด้วยการล็อคประตูบ้านไว้ตลอด
คุณธีระภัทรยอมรับว่าที่ออกมาเปิดเผยตนก็เพื่ออยากสนับสนุนป้าทุบรถ เพราะเห็นว่าเป็นเสาหลักเดียวที่ต่อสู้กับตลาด ตนเองก็อยากเห็นหมู่บ้านกลับมาสงบสุขเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน
ปัญหานี้จะยังไม่จบง่ายๆ หากคนเดือดร้อนยังมีอยู่ ในขณะที่ตลาดอาจมีโอกาสกลับมาเปิดอีกครั้งหากมีการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามกฏระเบียบทุกอย่าง