หนุ่มอ้างเป็นอาสาสมัครของ สภ.เมืองพัทยา กร่างหาเรื่องโดนวัยรุ่นรุมกระทืบ ก่อนขับรถจักรยานต์หนีแล้วเสียหลักชนรถเก๋งที่ขับสวนทางเจ็บสาหัส ด้านเจ้าหน้าที่รอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบริเวณที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในร้านหมูกระทะน้องกะทิ ซอยบงกช ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุบริเวณถนนด้านหน้าร้านพบร่องรอยการต่อสู้ และอาวุธมีดยาวประมาณ 10 เซนติเมตรตกอยู่ 1 เล่ม พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายสมรักษ์ มีชัย อายุ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมแทงที่คอ อีกรายคือนายทวีโชค สุวรรณภูเต อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมแทงที่คิ้วซ้าย ที่แขนซ้ายยังพบบาดแผลถูกของมีคมกรีดยาวประมาณ 10 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนฝ่ายคู่กรณีได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีแล้วเสียหลักในขณะข้ามเลนได้ชนประสานงากับรถยนต์ของประชาชน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย น.ส.ศุภราค์ ยาสูงเนิน ได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่ข้างซากรถจยย. นายสุทธิพงษ์ สว่างใจ อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่บนฟุธปาธ มีบาดแผลคล้ายถูกแทงที่ต้นขา และนายสบาย วิเวกวิน อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บปูดบวมทั่วทั้งใบหน้า เจ้าหน้าที่กูภัยฯปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายนายสุทธิพงษ์ ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามนายชาติชาย มะหูณี อายุ 33 ปี ผู้จัดการร้านน้องกะทิหมูกระทะ เล่าว่ากลุ่มของนายสบาย และนายทวีโชค เข้ามาใช้บริการที่ร้าน ก่อนจะมีปากเสียงกันตนจึงได้ขอให้แยกย้ายและจบกันไป แต่นายสบาย กลับอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของ สภ.เมืองพัทยา พยายามจะคาดครั้นเอาเรื่องแล้วเดินออกจากร้านไป ตนเองไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแล้ว แต่เมื่อกลุ่มของนายทวีโชค เดินกลับตามออกไปก็เกิดชกต่อยกันชุลมุนกันขึ้นตนและพนักงานที่ร้านได้ช่วยกันห้ามแต่ลูกน้องที่ร้านก็ถูกทำร้ายตนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ด้านน.ส.ศุภรางค์ เล่าว่ากลุ่มของนายทวีโชค เข้าใจผิดว่านายสบายไปจีบผู้หญิงกลุ่มตน จึงเกิดการเขม่นกัน แล้วออกมารุมตีนายสบาย เมื่อนายสุทธิพงษ์ เห็นท่าว่าเสียเปรียบจึงรีบพากันขับขี่จยย.ซ้อนสามออกจากที่เกิดเหตุแต่เกิดเสียหลักไปชนเข้ากับรถยนต์เก๋งดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อทั้งสองฝ่ายจึงจะต้องสอบปากคำทั้งสองฝ่าย และพยานแวดล้อม พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วดำเนินคดีให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป