ดีเดย์ 5 พ.ย.นี้ ห้ามทุกหน่วยงานเรียกสำเนาเอกสารราชการ

ครม.ไฟเขียวมาตรการห้ามหน่วยงานรัฐเรียกสำเนาเอกสารราชการจากปชช. ภายใน 5 พ.ย.นี้ หากไม่ปฏิบัติโดนหักคะแนนประเมินผลงาน พร้อมเดินหน้าสร้างศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐเสร็จปี 63

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน (การไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้จากประชาชน) ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอ โดยกำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป ห้ามไม่ให้หน่วยงานรัฐเรียกสำเนาเอกสารที่ราชการออกให้จากประชาชน

“มีผู้ร้องเรียนมายังสำนักงาน ก.พ.ร. เป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการที่ผู้มีอำนาจยังไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 21/2560 ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2561 จึงมีมติเห็นชอบมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน (การไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ จากประชาชน) เพื่อให้หน่วยงานรัฐภายในฝ่ายบริหารทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติ”พล.ท.สรรเสริญกล่าว

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ที่กำหนดให้การจัดทำสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้แก่ผู้ขอรับอนุมัติ อนุญาต หรือใบอนุญาต หรือผู้ยื่นขอจดทะเบียนหรือ จดแจ้งเพื่อประกอบการพิจารณา เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจอนุมัติ อนุญาต หรือใบอนุญาต

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการดำเนินการตามมาตรการห้ามหน่วยงานภาครัฐเรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้จากประชาชน จะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ การดำเนินการในระยะสั้นหรือภายในวันที่ 5 พ.ย.นี้  กำหนดให้หน่วยงานรัฐมีหน้าที่ ดังนี้

1.ให้หน่วยงานของรัฐที่มีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ให้ประชาชนต้องยื่นหรือส่งสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องทำบันทึกข้อตกลง

2.เมื่อประชาชนมาติดต่อขอรับบริการ ให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้สั่งพิมพ์เอกสารหรือหลักฐานที่ต้องใช้จากระบบที่เชื่อมโยงไว้และลงนามรับรอง โดยประชาชนผู้มาติดต่อไม่ต้องเป็นผู้นำสำเนามาและไม่ต้องลงนามรับรอง

3.การให้บริการที่เป็นตัวเงินแก่ประชาชนไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด รวมทั้งการจ่ายเงินและสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ กรรมการ อนุกรรมการ และคณะทำงานของหน่วยงานของรัฐทั้งหมด ให้ดำเนินการผ่านระบบ National e-Payment ภายในวันที่ 5 พ.ย.2561

4.ให้สำนักงาน ก.พ.ร. เปิดช่องทางการสื่อสารผ่าน Social network เพื่อรับข้อร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว และให้รายงานรัฐมนตรีเจ้าสังกัดของหน่วยงานนั้นทราบเพื่อนำไปใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานด้วย

ส่วนการดำเนินการในระยะกลาง คือ ภายในปี 2562 กำหนดให้ 1.หน่วยงานพัฒนาระบบสารสนเทศหรือแอปพลิเคชันที่ให้บริการประชาชนเพื่อเชื่อมต่อกับ Linkage Center ของกรมการปกครอง เพื่อให้สามารถดึงข้อมูลของประชาชน เพื่อกรอกลงในแบบคำร้องดิจิทัลของหน่วยงานได้โดยอัตโนมัติ และ2.ให้หน่วยงานพิจารณาลดรายการเอกสารสำเนาที่ประชาชนต้องใช้ในการขอรับบริการ

ขณะที่การดำเนินการในระยะยาว คือ ภายในปี 2563 คือ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ร่วมกันพัฒนาศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ (Government Data Exchange Center : CDX) ให้ครอบคลุมรายการเอกสารที่เชื่อมโยงมากขึ้น เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเรียกดูและบันทึกเอกสารทางราชการระหว่างหน่วยงานได้และให้บริการออนไลน์ได้

พล.ท.สรรเสริญ ยังกล่าวว่า ที่ประชุมครม.ยังเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยรัฐบาลดิจิทัล เพื่อยกระดับการดำเนินงานของภาครัฐไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล

ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ให้หน่วยงานต่างๆ ต้องจัดทำข้อมูลตามภารกิจของตนเองให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัล ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปกับหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ขณะเดียวกัน จะต้องเปิดเผยข้อมูลของรัฐในรูปแบบดิจิทัลสาธารณะ ให้ประชาชนรับรู้ รับทราบ แต่จะต้องไม่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการดำเนินการจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี คาดว่าจะใช้งบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า