ประธานกกต. ชี้นายกฯใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ใช่การหาเสียง ระบุเป็นอำนาจคสช. กำหนดสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้ ย้ำกกต.ไม่เอื้อประโยชน์ใคร
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ในขณะนี้ ว่า ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการหาเสียง แต่เรื่องนี้ยังไม่มีการคุยกันในรายละเอียด โดยรับทราบเรื่องจากสื่อมวลชนเท่านั้น ยังไม่สามารถตอบชัดเจนได้ ขณะที่คสช.จะเป็นผู้ชี้ว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้
“นิยามของคำว่ากิจกรรมทางการเมืองที่มีระบุไว้ในคำสั่ง คสช. นั้น คสช.จะเป็นผู้ชี้ว่าสิ่งไหนทำได้ ทำไม่ได้ ไม่ใช่ กกต. แต่ กกต. จะต้องดูว่าการกระทำใดๆจะส่งผลเสียหรือส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหรือไม่ เพราะไม่จำเป็นต้องมีใครมาบอกก็เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่ถ้าเห็นว่าการดำเนินการใดๆยังไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำที่จะกระทบต่อการเลือกตั้งก็จะยังไม่ดำเนินการ”นายอิทธิพรระบุ
นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.ได้เก็บข้อมูลทุกอย่างไว้แล้ว เช่น เรื่องการลงพื้นที่ของพรรคพลังประชารัฐหากไม่ได้ใช้ทรัพยากรรัฐและเวลาราชการ ก็ถือว่าทำได้ และถ้ามีข้อมูลหลักฐานว่ามีการละเมิดกฎหมาย กกต.ต้องดำเนินการแน่นอน เริ่มตั้งแต่พิสูจน์หาพยานหลักฐานและตัดสินว่าการกระทำเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ต้องมีหลักฐานครบถ้วนก่อน
“ตามพ.ร.ป.กกต.มาตรา 22 กำหนดอำนาจหน้าที่ กกต.ไว้ว่าให้สอดส่องดูแลเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม เป็นไปชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลาว่า จะต้องรอให้มีพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งก่อนจึงจะทำได้ แต่ กกต.สามารถดำเนินการได้ตลอดเวลา”ประธาน กกต.กล่าว
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีปัญหาเรื่องอำนาจทับซ้อนในการควบคุมตามกฎหมายที่คาบเกี่ยวกับการเลือกตั้งระหว่าง คสช.กับ กกต.ว่า ตนไม่คิดว่าอำนาจทับซ้อนกันระหว่าง คสช.กับ กกต. แต่ต้องเข้าใจว่าคำสั่ง คสช.ถือว่าเป็นกฎหมาย ซึ่ง กกต. ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบัน แม้ว่า คสช.มีคำสั่งคลายล็อกแล้วแต่ประเด็นใดที่ กกต.เห็นว่าไม่มีความชัดเจนก็จะสอบถามไป รวมถึงมีความเห็นของ กกต.เองด้วย
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กกต.ไม่อยู่ในฐานะที่จะเอื้อประโยชน์ให้ใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดได้ ดังนั้นเวลานี้จึงไม่เห็นข้อเท็จจริงใดที่จะนำไปสู่ความกังวลว่าจะเกิดการเลือกตั้งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยขณะนี้กกต.อยู่ในช่วงการเตรียมการเลือกตั้ง การแบ่งเขตที่ภายในวันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.) ทุกจังหวัดจะเสนอรายงานการรับฟังความคิดเห็นมายัง กกต.เพื่อพิจารณาคัดเลือกรูปแบบการแบ่งเขตที่ดีที่สุดต่อไป นอกจากนี้ กกต.จะเร่งรัดเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง