เรื่องราวของคุณป้าทุบรถยังไม่จบ ล่าสุด โซเชี่ยลแชร์ภาพป้ายขนาดใหญ่มีข้อความเชิงร้องขอความเห็นใจ มีภาพหญิงสาวนั่งอยู่บนรถวิลแชร์ ตั้งอยู่หน้าตลาดข้างๆบ้านป้าทุบรถ ข้อความระบุคร่าวๆว่า หญิงสาวเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องรักษาตัว ขอความช่วยเหลือนายกรัฐมนตรี
ป้ายที่เห็นอยู่นี่ ตั้งอยุ่หน้าบ้านป้าทุบรถเลย ขนาดป้ายมีความใหญ่โตพอสมควร มีข้อความยาวมาก มีรูปภาพหญิงสาวนั่งรถวิลแชร์ ระบุข้อความว่า ตอนนี้หนูเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หนูต้องรักษาตัวขอความเมตตาจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองด้วย ความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่ข่าวสื่อออกไปเลย บริเวณรอบๆตลาดมีลานจอดรถเพียงพอ ตอนนี้ฝั่งหนูอยากพูดความจริงให้สังคมได้รับรู้กันบ้าง เพราะตอนนี้หนูไม่มีเงินรักษาตัวเอง และหนูก็รูตัวดี เพราะเวลาของหนูคงอยู่ไม่นาน เพราะตอนนี้มะเร็งลามเข้ากระดูกแล้ว ในหลายเรื่องหนูอยากให้สังคมเข้าใจฝั่งหนูบ้าง วอนท่านนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยลงมาดูให้หนูด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีข้อความระบุไปถึงป้าทุบรถอีกว่า ป้าคะ เวลาที่หนูเจอป้าในระยะ10ปีที่มา หนูไหว้ขอความเมตตาจากป้าทุกครั้ง เจอที่ศาลหรือที่ไหนก็แล้วแต่ หนูจะไปไหว้ทุกครั้ง ถึงป้าจะไม่ชอบหนูก็ตาม นี่ก็เป็นข้อความที่ติดไว้หน้าบ้านป้าทุบรถ
เพื่อความชัดเจน ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ภายในซอยศรีนครินทร์55 เพื่อค้นหาความจริง ก็พบกับป้ายขนาดใหญ่ ติดไว้หน้าบ้านของนางบุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าของฉายา คุณป้าทุบรถ ผู้ที่เป็นข่าวดัง จากกรณีทุบรถที่จอดหน้าบ้าน เมื่อต้นปีที่ผ่านมาไปเจอกับนายสมศักดิ์ แซ่ลิ้ม เป็นพี่ชายของนางสาวปิยธิดา ลิมป์ธรรมเลิศ คนในภาพที่นั่งวิลแชร์ นายสมศักดิ์เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้หญิงที่นั่งวิลแชร์ เป็นน้องสาวตนเอง ตอนนี้ กำลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และเป็นเจ้าของตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ที่อยู่ติดบ้านป้าทุบรถ ขอความเห็นใจจากป้าทุบรถและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะตอนนี้ น้องสาวไม่มีเงินไปรักษาทำเคมีบำบัดเพราะ เงินที่เก็บไว้ก้อนสุดท้าย ได้เอามาลงทุนทำตลาดไปแล้ว แต่กลับต้องมาถูกปิดเพราะคุณป้า ยืนยันพื้นที่ตรงนี้มีที่จอดรถหลายที่ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปิดตลาดกัน จะเอาเงินที่ไหนไปรักษาน้อง
เพื่อความเป็นธรรม ทีมข่าวติดต่อไปหาคุณป้าบุญศรี หยกแสงตระการ เจ้าของบ้าน ก็ชี้แจงสั้นๆว่า เห็นป้ายแวบๆเมื่อเช้า เนื่องจากขับรถไปธุระ ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียด ยอมรับว่ารู้จักกับเจ้าของตลาดรายนี้ แต่ไม่รู้ลึกขนาดที่ว่า ป่วยเป็นมะเร็ง อย่างไรก็ตามขอตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร จากนั้นจะให้ข่าวกับสื่อมวลชนอีกครั้ง