กรมแพทย์แผนไทยฯ เล็งเสนอปลดล็อกตำรับยา 4 ตำรับผสม “กัญชา” หากกฎหมายเปิดเตรียมศึกษาในคน หวั่นหากเข้มงวดรูปแบบการนำมาใช้จะเสียบเปรียบต้องนำเข้าจากต่างประเทศแทน
จากแนวคิดที่มีการเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พิจารณาปรับเปลี่ยนกัญชาจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 มาเป็นประเภท 2 เพื่อนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์โดยอนุญาตเฉพาะสารสกัดจากกัญชา ซึ่งเป็นวิธีการปลดล็อกที่เร็วที่สุด
นายแพทย์มารุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า เบื้องต้นจะเสนอให้คลายล็อกยา 4 ตำรับ ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม คือ ตำรับศุขไสยาศน์ ช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร นำมาใช้ทดแทนหรือเสริมกับยานอนหลับในแผนปัจจุบันได้ / ตำรับทำลายพระสุเมรุ ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาต / ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ หรือที่เรียกว่า ท้องมาน และตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล โดยจะนำมาศึกษาและดูผลว่าการรักษาเป็นอย่างไร รวมถึงควบคุมกัญชาให้อยู่ในวงจำกัดอย่างไร
ด้าน นายแพทย์ ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ระหว่างนี้จะทำโครงการขอศึกษาในมนุษย์ สำหรับตำรับยาทั้ง 4 ตำรับ ตำรับละ 100 ราย หากมีผลดี มีสรรพคุณที่ดี ปลอดภัย ไม่ทำให้เสพติด ก็จะขยายโดยการเก็บข้อมูลเพิ่มเป็นตำรับละ 1,000 ราย หากผลดีก็จะต่อยอดไปขึ้นในทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติของแพทย์แผนไทย เพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องรอปลดล็อกก่อน
ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือร่วมกับ อย. ถึงการปลดล็อกกัญชาที่อาจกระทบกับแพทย์แผนไทย เนื่องจากแม้ตามตำรับยาจะใช้ใบ ดอก แต่ทางการแพทย์แผนไทย ก็มีวิธีสกัดน้ำเป็นยาต้มหรือยาน้ำ นำมาบรรจุขวด ไม่ได้เป็นใบหรือดอก ซึ่งตามกฎหมายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไม่ให้คงสภาพเดิมเป็นดอกหรือใบ แต่ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนก็จะถูกควบคุมโดย อย.
“สิ่งที่กังวล คือ หากมีการเข้มงวดมาก จะกลายเป็นว่าสารสกัดยาเสพติดประเภท 2 จะเป็นสารสกัดที่นำเข้าหรือผลิตโดยต่างประเทศทั้งหมด เพราะประเทศไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมหรือโรงงานที่ทำได้ ซึ่งจะทำให้เราเสียเปรียบ” นายแพทย์ขวัญชัยกล่าว