กรมควบคุมโรค เตือนคนไทยไป “ญี่ปุ่น” ระวังโรคหัดเยอรมัน พบผู้ป่วยในภูมิภาคคันโตแล้ว 1,289 ราย เผยช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยหัดเยอรมันถึง 914 ราย ระบุหญิงมีครรภ์เสี่ยงอันตรายมาก
กรมควบคุมโรค ออกเอกสารแจ้งเตือนไปยังคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวยังประเทศญี่ปุ่นในช่วงนี้ ให้ระวังการแพร่ระบาดของโรคหัดเยอรมัน โดยสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกเอกสารแจ้งเตือนหัดเยอรมันที่ประเทศญี่ปุ่น โดยระบุว่า สถานการณ์ระบาดข้อมูลวันที่ 19 ก.ย. 2561 มีผู้ป่วยรายใหม่ที่เมือง โตเกียว 32 ราย ชิบะ 27 ราย คานากาวา 19 ราย ไซตะมะ และ ไอจิ เมืองละ 11 ราย โดยช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึง 24 ต.ค. 2561 มีรายงานผู้ป่วยโรคหัดเยอรมัน 914 ราย ส่วนตั้งแต่ 1 ม.ค. – 24 ต.ค. 2561 พบผู้ป่วยแล้ว 1,289 ราย โดยพบในภูมิภาคคันโต
สำหรับโรคหัดเยอรมัน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งโดยการไอ จาก หรือใกล้ชิดกับคนติดเชื้อ ทำให้เกิดไข้และผื่น และเป็นอันตรายอย่างมากกับหญิงตั้งครรภ์และเด็กในท้อง
ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเพิ่มเติม โดยปกติแล้วหากมีผู้โดยสารติดเชื้อหัดเยอรมันไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ จนกว่าจะครบ 4 วัน นับจากวันที่มีผื่นขึ้นครั้งแรก ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบินนั้น ๆ พร้อมทั้งมีใบรับรองแพทย์อนุญาตให้โดยสารเครื่องบิน
นอกจากนี้ ประกาศดังกล่าวยังแจ้งเตือนให้ประชาชนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นในพื้นที่ดังกล่าว ให้ป้องกันตนเอง ดังนี้
- ตรวจสอบตนเองว่า เคยได้รับวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันครบ 2 เข็มหลังจากอายุ 1 ขวบหรือไม่
- หากไม่มั่นใจว่าเคยได้รับวัคซีนครบหรือไม่ แนะนำพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและรับวัคซีนเพิ่มเติม โดยหญิงตั้งครรภ์ไม่สามารถรับวัคซีนได้ เนื่องจากวัคซีนเป็นอันตรายกับเด็กในท้อง และหญิงวัยเจริญพันธุ์ควรฉีดวัคซีนและคุมกำเนิดหลังฉีดวัคซีนครบอย่างน้อย 1 เดือนจึงจะตั้งครรภ์ได้
- แนะนำหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อหัดเยอรมัน (ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นโรคมาก่อน) หลีกเลี่ยงการเดินทาง หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ให้ใช้มาตรการระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น พยายามไม่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันเยอะๆ และอากาศไม่ถ่ายเท ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากที่พัก ล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งที่มีโอกาส รวมถึงพกแอลกอฮอล์สเปรย์หรือเจลไว้ล้างมือตลอดเวลาทุกครั้งที่ไม่สามารถล้างมือฟอกสบู่ได้ และไม่นำมือไปสัมผัสตา จมูก ใบหน้าโดยไม่จำเป็น
- แนะนำให้เด็กอายุน้อยกว่า 9 เดือน หลีกเลี่ยงการเดินทาง เนื่องจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันในประเทศ ไทยเริ่มฉีดเมื่อเด็กอายุ 9 เดือนเป็นต้นไป และ 5.หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับคนไม่สบาย รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยในที่ชุมชนแออัดและล้างมือฟอกสบู่บ่อย ๆ
ส่วนข้อมูลสำหรับแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข คือ ในคนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัดเยอรมัน หรือไม่มั่นใจว่าได้วัคซีนครบหรือไม่ แนะนำให้ตรวจเช็กภูมิคุ้มกันหรือฉีดวัคซีนให้ครบ 1 คอร์ส หรือ 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์
สำหรับโรคหัดเยอมัน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ติดต่อด้วยการไอ จาม หรือใกล้ชิดกับคนติดเชื้อ ทำให้เกิดไข้และมีผื่น ประมาณ 2-3 วัน เป็นโรคที่อันตรายมากกับหญิงตั้งครรภ์และเด็กในท้อง เนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ เด็กสามารถเกิดภาวะ พิการแต่กำเนิด หูหนวก ตาเป็นต้อกระจก เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด มีภาวะผิดปกติทางสมอง และอวัยวะภายในได้รับ ความเสียหายได้