ปลัด สธ.มอบ ผู้ตรวจฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหมอสูติฯ ถูกสาวร้อง ข่มขืนขณะตรวจภายใน ผอ.รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง เจ้าตัวยังปฏิเสธ ยืนยันใส่ถุงยางกับเครื่องมือเพื่อตรวจภายใน
จากกรณีนางสาวศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า เข้าร้องต่อองค์กรทำดีของนักแสดงและพิธีกรชื่อดัง คุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ฟ้องเอาผิดสูตินรีแพทย์รายหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ โดยอ้างว่าถูกข่มขืนขณะตรวจภายใน ซึ่งมีข้อสงสัยว่า เหตุใดต้องใช้อวัยวะเพศชายของปลอมแล้วสวมถุงยางอนามัย โดยแพทย์คนดังกล่าวได้เข้าให้การกับตำรวจและปฏิเสธข้อกล่าวหา
วันนี้ (16 พ.ย.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ สธ.ที่ดูแล จ.นครสวรรค์ ลงไปติดตามเรื่องนี้พร้อมกับนายแพทยสาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมแพทย์ ส่วนเรื่องมาตรฐานก็ต้องไปดูที่คลินิกว่า ได้รับมาตรฐานหรือไม่อย่างไร เบื้องต้นขอติดตามผลการสอบสวนก่อนว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะคดีข่มขืนเป็นคดีอาญา ซึ่งหากนายแพทย์คนดังกล่าว อยู่ในสังกัด สธ. ก็ต้องถูกลงโทษทางวินัยราชการอยู่แล้ว
นพ.สุขุม กล่าวต่อไปอีกว่า ในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนจะมีมาตรฐานการให้บริการ การตรวจภายในมาตรฐานของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ก็มีกำหนดไว้ ที่สำคัญต้องมีบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ด้วยตลอด เครื่องมือต่าง ๆ ก่อนจะใช้ทำการตรวจก็ต้องแจ้งคนไข้ ดังนั้น ไม่ต้องกังวล การมาตรวจภายใน ที่โรงพยาบาลมีความปลอดภัยและได้มาตรฐานแน่นอน
นพ.บุญชัย ธีระกาญจน์ ผู้ตรวจราชการ สธ. ที่ดูแล จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า ทราบว่า ทาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ได้เรียกตัวแพทย์คนดังกล่าวมาพบแล้ว แต่ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดภายในคลินิกส่วนตัว ไม่ใช่สถานที่ราชการ แต่ด้วยระบบราชการ หากเจ้าตัวรับราชการอยู่ เรื่องนี้ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ก็อาจนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ได้ทำความเสื่อมเสียกับราชการ แต่เป็นพฤติกรรมส่วนตัว และยังไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของราชการเท่านั้น
ด้าน นพ.ชนินทร์ จารุวัฒนมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ กล่าวว่า ต้องรอผลการสืบสวนจากตำรวจก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ทางโรงพยาบาลก็ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและเชิญนายแพทย์คนดังกล่าวมาให้ข้อมูล ซึ่งได้ปฏิเสธและให้ข้อมูลเหมือนที่ให้การกับทางตำรวจ คือ การใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ ซึ่งต้องสวมถุงยางอนามัยป้องกันติดเชื้อ ในการสอดเข้าไปตรวจภายใน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่มีความผิดที่ชัดเจน จึงยังคงไม่ได้สั่งพักงาน ต้องรอข้อมูลชัดเจนจากทางตำรวจด้วย