รู้ๆ กันอยู่นะคะว่าสองมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนกำลังระหองระแหงกันอยู่เกี่ยวกับสงครามการค้าของทั้งสองประเทศ และล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ธ.ค. 61) Meng Wanzhou หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของ Huawei และลูกสาวของผู้ก่อตั้ง ได้ถูกกักตัวไว้ที่สนามบินแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา บนข้อเรียกร้องเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ประธานาธิบดีของจีนและอเมริกากำลังป๊ะหน้ากันในการประชุมสุดยอด G20 ที่อาร์เจนตินา ซึ่งพวกเขาเห็นด้วยกับการพักรบระยะสั้น 90 วันในสงครามการค้าของพวกเขา!
การจับกุม Meng Wanzhou ในระหว่างการเปลี่ยนเที่ยวบินครั้งนี้ ยังไม่ได้ระบุข้อกล่าวหาที่แน่ชัดต่อสาธารณชน แต่เธอได้ปรากฏตัวต่อหน้าศาลเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 ธ.ค. 61) และจะได้รับการพิจารณาเรื่องข้อเรียกร้องการประกันตัวในวันนี้
โดย จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) นายกรัฐมนตรีของประเทศแคนาดา เปิดเผยเพียงว่า รัฐบาลของเขาได้รับทราบเกี่ยวกับการจับกุมไม่กี่วันก่อน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจับกุมผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน แต่เขาก็รับประกันว่าแคนาดาเป็นประเทศที่มีตุลาการอิสระ
อย่างไรก็ตาม เคยมีรายงานก่อนหน้านี้ที่ชี้ให้เห็นว่าการจับกุมครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการสืบสวนของสหรัฐอเมริกาในเรื่องการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดย จอห์น โบลตัน (John Bolton) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กับนักข่าว เขากล่าวเพียงว่าเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีความกังวลอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทจีนดังกล่าวที่เป็นไปได้ว่ามีการดำเนินงานที่เป็นไปได้ว่าจะเป็น ‘แขน’ ของรัฐบาลจีน และแน่นอน… โบลตันยอมรับว่าเขารู้เรื่องการจับกุมล่วงหน้า
ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าอเมริกามีความกังวลอย่างมากมานานหลายปีเกี่ยวกับการปฏิบัติของบริษัทจีน ในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอเมริกาที่ถูกโจรกรรมไปเพื่อการถ่ายโอนเทคโนโลยี และถูกใช้เป็นเป้าหมายของรัฐบาลจีนในแง่ของเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นแบบเฉพาะกิจ ซึ่งโบลตันบอกด้วยว่าอาจจะไม่เคารพการจับกุมครั้งนี้ก็ได้ แต่หัวเหว่ยเป็นบริษัทเดียวที่สร้างความวิตกกังวลให้อเมริกา
ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ นั้นได้กล่าวหาหลายครั้งว่า บริษัทเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ โดยอ้างว่าเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนสามารถทำการสอดแนมได้ โดยอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เพิ่งมีการบล็อกการใช้อุปกรณ์ของหัวเหว่ยในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเครือข่ายมือถือ 5G ที่เร็วกว่าเดิมโดยอ้างถึงปัญหาด้านความปลอดภัย
ผลของการจับกุมบุคลากรคนสำคัญของ Huawei ในครั้งนี้ ทำให้หุ้นในยุโรปร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองปี และดัชนีหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์มีความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน
จากการจับคุมครั้งนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “การกักขังโดยไม่ให้เหตุผลใด ๆ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แคนาดาและสหรัฐอเมริกาต้องชี้แจงเหตุผลของการกักขังโดยทันที และปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทันทีเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของบุคคลดังกล่าว”
ทั้งนี้ หัวเหว่ยเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์และบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเพิ่งเอาชนะ Apple จนกลายมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสองของโลกรองจาก Samsung และในคำแถลงของหัวเหว่ยได้ระบุว่า “การดำเนินกิจการของบริษัท เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมด ซึ่งรวมถึงกฎหมายและข้อบังคับการควบคุมการส่งออกและการอนุมัติของสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปด้วย”
ก็ต้องมารอติดตามกันต่อไปค่ะว่า Meng Wanzhou จะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ และเหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนประทุและร้อนระอุขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
ที่มา: www.bcc.com
Photo via: Youtube South China Morning Post และ Youtube Body Language Ghost