“เศรษฐพงค์” ชี้อีก 5 ปี เทคโนโลยี AI พลิกโฉมธุรกิจทั่วโลก

“เศรษฐพงค์” แนะผู้นำประเทศ ต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี “AI” คาด 5 ปี ธุรกิจทั่วโลกพลิกโฉมหน้า หลัง AI ทำงานบนสมาร์ทโฟน-อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เต็มประสิทธิภาพ

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ แกนนำทีมยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลและโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยระหว่างการบรรยายหัวข้อ “IT Trends 2019 : The Year of Disruption” โดยระบุว่า เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปอย่างมากและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะมีบทบาทและมีผลกระทบที่ชัดเจนในทุกมิตินับจากนี้ไป

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ความตึงเครียดระหว่างประเทศสหรัฐและประเทศจีนได้เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าความตึงเครียดระหว่างสองประเทศจะทวีความรุนแรงขึ้นในเรื่องสงครามการกีดกันทางการค้า (trade war) โดยสหรัฐได้ทำการกดดันประเทศจีนในเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีไมโครชิพ AI ซึ่งประเทศจีนมีนโยบายให้การสนับสนุนส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านไมโครชิพ AI เป็นอย่างมาก ในขณะที่บริษัท Huawei ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และระบบสื่อสารโทรคมนาคม กำลังครอบครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับ Top 3 ของโลกแล้วในวันนี้ โดยประเทศจีนได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นผู้นำด้าน AI อันดับหนึ่งของโลกภายในปี 2030

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ล่าสุด GSMA คาดการณ์ว่า ภายใน 2020 ทั่วโลกจะมีผู้ใช้สมาร์ทโฟน 73% ของประชากรโลก หรือคิดเป็น 5,700 ล้านคน และข้อมูล Big Data เฉพาะบนโครงข่ายสมาร์ทโฟนจะมีการเชื่อมโยงอย่างหนาแน่นถึง 112% ของประชากรโลก นั่นคือจะมีจำนวน SIM ของสมาร์ทโฟน 9,700 ล้านการเชื่อมต่อบนโครงข่าย ส่วนไทยจะมีเลขหมายสมาร์ทโฟน 150 ล้านเลขหมายภายในปี 2020

นอกจากนี้ เมื่อ AI ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพบนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์และสมาร์ทโฟน ก็จะเริ่มส่งผลกระทบนับจากนี้ไปในธุรกิจต่างๆที่กำลังจะถูกพลิกผัน หรือที่เราเรียกว่า disruption ในหลายอุตสาหกรรม เช่น สื่อ, โทรคมนาคม, การบริการทางการเงิน, โลจิสติกส์, ค้าปลีก, การแพทย์และสุขภาพ ไปจนถึงการศึกษา ซึ่ง AI จะส่งผลอย่างมากและชัดเจนในช่วงปี 2023 หรืออีก 5 ปีนับจากนี้

“AI จะส่งผลอย่างมากและชัดเจนในช่วงปี 2023 โดย World Economic Forum ได้วิเคราะห์ว่าเป็นช่วงเวลาที่ Big data จะถึงจุดทะยานในปีดังกล่าว และจะส่งผลกระทบในการพลิกผันรูปแบบอุตสาหกรรมต่างๆ ส่วนปีที่ AI และ Big data ทะยานขึ้นพร้อมกันจนเกิดโมเมนตัมที่สุดจะอยู่ในช่วงปี 2025”พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์กล่าว

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสหรัฐ จีน เกาหลีใต้ และรัสเซีย ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า จะเป็นผู้นำด้าน AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนประกาศให้ AI เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศ และเป้าหมายว่าจะเป็นที่ 1 ในด้าน AI ของโลกภายในปี 2030 ทำให้สหรัฐและหลายประเทศในยุโรป ต่างหวาดระแวงที่ประเทศจีนจะครอบครองตลาดอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์และสามารถที่จะควบคุมการทำงานของเครือข่ายต่างๆ ในประเทศ จนทำให้สามารถที่จะโจมตีทางไซเบอร์ รวมทั้งยึดการทำงานบนระบบคลาวด์ของทั้งประเทศทุกประเทศได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้น AI จึงเป็นประเด็นสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคงของประเทศ จึงทำให้ความขัดแย้งในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคม จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนับจากนี้เป็นต้นไป

“ผู้นำและผู้บริหารประเทศในยุคจากนี้ไป จะไม่สามารถที่จะกำหนดทิศทางของประเทศได้อย่างถูกต้อง หากไม่มีความรู้และเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผัน ซึ่งมีผลกระทบจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยอัตราเร่งของเทคโนโลยี AI”พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์กล่าว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า