สถานการณ์น้ำท่วมเมืองนครศรีธรรมราช มีแนวโน้มลดลง กรมชลประทาน เดินเครื่องสูบน้ำและเรื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ปัจจุบัน( 17 ธ.ค. 61) ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย ประกอบด้วยจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดนราธิวาส โดยในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช สถานการณ์น้ำท่วมในเขต อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ผ่านจุดสูงสุด ไปแล้ว เมื่อเวลา 20.00 น.คืนที่ผ่านมา(16 ธ.ค. 61) ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 30-50 เซนติเมตร ซึ่งเป็นไปตามที่ กรมชลประทานได้คาดการณ์และแจ้งเตือนไว้ก่อนหน้านี้ โดยน้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณระหว่างถนน ราชดำเนินกับถนนพัฒนาคูขวาง ปัจจุบันแนวโน้มระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ส่วนการช่วยเหลือ กรมชลประทานได้ใช้เครื่องสูบน้ำ 12 เครื่อง และ เครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยังคงมีน้ำท่วมเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำโก-ลก บริเวณท่าเรือ ท่าน้ำโรงเลื่อย และสะพานรถไฟลันตู ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 36 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว และยังไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จนถึงขณะนี้ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด 3 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร และพัทลุง โดยในพื้นที่ ส่วนที่จังหวัดชุมพร สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ อ.หลังสวน อ.ละแม และ อ.พะโต๊ะ อย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมชลประทาน ได้ประสานจังหวัดชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง จังหวัดสุราษฏร์ธานี ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ยังคงมีน้ำท่วมพื้นที่เกษตรและชุมชนประมาณ 50-80 เซนติเมตร แต่ยังไม่มีผลกระทบต่อตัวเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ หากฝนไม่ตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้ สำหรับในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลควนขนุน สูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร โครงการชลประทานพัทลุง ได้ช่วยเหลือโดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติในเย็นวันนี้(17 ธ.ค. 61)