ความคืบหน้าคดี ด.ญ.วัย 12 ปีถูก 5 ทรชนรุมโทรมในร้านจำหน่ายสินค้า 10 บาททุกชนิดในเขตเมืองสระบุรี ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ( 24 ธ.ค.61) ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ในหมู่บ้านอยู่สบาย ท้องที่หมู่ 8 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี (บ้านเพื่อน)
นายอาคม กำเนิดพรหม หรือ ก็อดด์ พ่อของ ผู้เสียหายได้นัดผู้สื่อข่าวเพื่อแถลงตอบโต้ น.ส.ศรีสุนา ตันเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี ที่ออกมาแถลงข่าวชี้แจง ในกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า ไปบังคับให้ ด.ญ.ผู้เสียหาย ลาออกจากโรงเรียนเทศบาล 1 (วัดทองพุ่มพวง) เพราะไปสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับโรงเรียน ซึ่งเมื่อเย็นวานนี้ ( 23 ธ.ค.61) น.ส.ศรีสุนา ได้แถลงชี้แจงปฏิเสธว่า ไม่ได้ไล่เด็กออก มีแต่จะบังคับให้มาโรงเรียน
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายอาคม กำเนิดพรหม (ก็อดด์) พ่อ ของ ด.ญ.วัย 12 ปีผู้เสียหายเปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ตนได้สอบถามพูดคุยกับลูกสาวถึง 2-3 ครั้งไม่ใช่ครั้งเดียว พร้อมนำภาพถ่ายมาให้ดูซึ่งลูกสาวก็ชี้ได้ถูกต้องและเล่าตรงกันทุกครั้งว่า “ป้าแก่ๆ” พูดไม่ใช่ ผอ.โรงเรียนพูด โดยสอบถามลูกสาวว่า แกรู้จักกับวัยรุ่น 5 คนนั่นไม่ใช่หรือ ลูกสาวก็ตอบว่า ไม่รู้จัก ลูกสาวเล่าว่า ขณะพูดกับหนู พูดไปเบะปากไป ตนยังถามกลับอีกว่า เขาปากแบะอย่างนั้นเองหรือเปล่า ลูกสาว ตอบว่าไม่ใช่ และยังพูดต่อว่า ถ้าเรียนไม่ไหวก็ออกไป ซึ่งตนคิดว่าเป็นคำพูดที่แรงไปสำหรับผู้ใหญ่ที่พูดกับเด็กอย่างนั้น และลูกสาวยังเล่าอีกว่าก่อน ป้าแก่ๆ จะกลับออกไปยังพูดขู่อีกว่า ถ้า…ไม่มาเรียนอีกวันเดียวโดนไล่ออกแน่
ทำให้ต่อมาลูกสาว เกิดอาการเครียด โดยตั้งคำถามกับตน ว่า พ่อ “ถ้าหนูไม่อยู่ เรื่องจะจบไหม” และอีกประโยคหนึ่ง ถามตนว่า “พ่อถ้าหนูตาย พ่อจะเสียใจไหม เมื่อพูดถึง ตรงนี้ทำให้ นายอาคม มีอาการสะอื้นไห้ พร้อมร้องขอกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้น้อง หมายถึง ผู้เสียหายอยู่ในความดูแลของใครสภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง นายอาคม ตอบว่า ดีขึ้นบ้างแล้ว ขณะนี้น้องอยู่ในความดูแลของ สำนักงานคุ้มครองพยาน (กรมคุ้มครองสิทธิ) กระทรวงยุติธรรม โดยท่าน ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งให้เข้ามาช่วยเหลือดูแล และยังมีมูลนิธิฯหน่วยงานภาคเอกชนอีก 2-3 หน่วยเข้ามาซึ่งตนกำลังพิจารณาอยู่
ส่วนเรื่องการเรียน นายอาคม แจ้งว่า ตนได้ทำหนังสือลาออก จากโรงเรียนเทศบาล 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเรื่องจบตนจะนำไปอยู่โรงเรียนประจำ
เมื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีที่จะเอาผิดกับ ผู้ก่อเหตุ และยังติดใจว่ายังมีคนผิดเพิ่มจากนี้อีกหรือไม่ นายอาคม ตอบว่า พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่ง ส่วนผู้กระทำผิดรวมถึง เพื่อนหญิงรุ่นพี่ที่ชักชวนลูกสาวตนไปนั้นจะผิดด้วยหรือไม่ เจ้าหน้าที่ชี้แจงให้ฟังบ้างแล้วว่า น่าจะไม่เกี่ยวแม้อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมยกตัวอย่างให้ฟัง เหมือนมีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันในกลุ่ม แต่ผู้ที่ไม่ได้ร่วมทะเลาะด้วยจึงไม่มีความผิด แต่ในเรื่องนี้ตนกำลังปรึกษาทนายอยู่ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อการสืบสวนสอบสวนขึ้นมาทำคดีใหม่ โดยมีทนายของตนเข้าไปมีส่วนร่วมรับฟังด้วย เพราะเรื่องมันเดินมาลึกมากแล้ว
อีกคำถามที่ผู้สื่อข่าวถามนายอาคม ถึงเรื่องที่ ประธานชุมชน ออกมาพูดว่า น้อง (ผู้เสียหาย) ติดโทรศัพท์ตื่นสายไม่ไปโรงเรียนหากแม่ไม่ปลุก นายอาคม รับว่า อาจมีบ้างเพราะเป็นเด็ก แม้แต่ตนเองสมัยเด็กๆก็เป็น เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ มีหญิงสาวที่อยู่ในที่แถลงข่าว รีบชิงพูดตัดบททันทีว่า “ไม่เกี่ยวกับคดี”
ก่อนจบการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันได้ไหมว่าจะไม่การแถลงข่าวอีก นายอาคม ตอบว่า ไม่แน่ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ตนขอขอบคุณ สื่อมวลชนที่ให้การช่วยเหลือนำเสนอข่าว และขอบคุณ สื่อทางโชเชียลที่คอมเม้นท์ ให้กำลังใจให้ตนสู้ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงขณะนี้อย่างล้นหลาม