วันนี้ (12 ก.พ.62) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) และคณะได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าหลังมีการจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 21 คนในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเห็นบุคคลต้องสงสัยจำนวนมากอยู่ภายในบ้านร้างในป่าสวนยาง รอยต่อระหว่าง อ.บางสะพานกับ อ.บางสะพานน้อย
จากการเข้าตรวจสอบพบเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมาหลบซ่อนอยู่ 21 ราย เป็น ชาย 20 ราย และ หญิง 1 ราย ไม่พบเอกสารระบุตัวบุคคล จึงควบคุมตัวไปสอบสวน ทั้งหมดให้การว่า แอบลักลอบเดินเท้าเข้าประเทศ ผ่านช่องทางธรรมธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อรอเดินทางไปกับนายทุนใหญ่ในจังหวัดภาคใต้ และเจ้าหน้าที่แก๊งคนมีสีที่รับจ้างขนแรงงานเถื่อนจะมารับตัวเพื่อนำไปส่งยังประเทศมาเลเซียตามใบสั่ง แต่ระหว่างรอขนย้ายถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมเสียก่อน
นายโจนัส หนึ่งในผู้ต้องหาแรงงานต่างชาติที่หลบหนีเข้าเมืองให้การว่า ได้เดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง พร้อมพวกรวม 21 คน อายุระหว่าง 18ถึง 31 ปี โดยสารจากประเทศพม่า และเข้ามาที่เขตรอยต่อระหว่าง ชายแดนประเทศไทย ต่อจากนั้นได้เดินเท้ามาอีก 2 วัน และมาพักอยู่ที่บ้านร้าง บ้านแพรกขวา ต.ช้างแรก เพื่อรอนายหน้าคนไทยไปรับในช่วงเวลากลางคืนเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียโดยเสียค่าหัวคนล่ะ 20,000 บาท แต่มาโดนจับเสียก่อน
ในระหว่างสอบสวนได้ให้ผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองทั้ง 21 ราย ได้ชี้รูปเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูว่าใคร มีส่วนร่วมขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ โดยต่างด้าวได้ชี้รูปภาพของผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นตำรวจนายหนึ่งในพื้นที่
พล.ต.ต. สุรศักดิ์สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพานน้อย รายนั้นไว้ทันที และเตรียมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 10 กว่ารายด้วยกัน ไว้ทำการสอบสวน ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ กล่าวว่า “ขบวนการนี้ถือว่าเป็นกระบวนการใหญ่ซึ่งทำกันเป็นขบวนการตั้งแต่ภาค 6 ภาค 7 ภาค 8 ถึงภาค 9 ซึ่งมีกระบวนการ ค้าแรงงานมนุษย์ข้ามชาติ ซึ่งได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหามาแล้วมากกว่า 30 ราย และที่อำเภอบางสะพานน้อย คาดว่าน่าจะออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้นับ 10 รายด้วยกัน คาดว่าอีกประมาณ 2 วันคงออกหมายจับได้ทั้งหมด