ประธานกกต.ชวนคนไทยไปใช้สิทธิ์ “เลือกตั้ง” แสดงพลังประชาชนในการเลือกหนทางการเมืองด้วยตัวเอง พร้อมแจงขั้นตอนลงคะแนนเลือกตั้ง-ข้อห้ามต่างๆ
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พูดคุยหัวข้อ “นับถอยหลังเลือกตั้งกับ กกต.” ระหว่างการจัดกิจกรรม “Big Day เลือกเดิน เลือกวิ่ง เลือกตั้ง 62” โดยระบุว่า ขณะนี้ กกต.พร้อมแล้ว สำหรับการเลือกตั้งนอกเขตหรือเลือกตั้งล่วงหน้าที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) และการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 24 มี.ค.นี้
“ครั้งนี้เราพยายามทำให้ดีที่สุด และตระหนักดีว่า เราไม่ได้มีการเลือกตั้งกันมาหลายปีแล้ว กฎระเบียบ ขั้นตอน ก็มีมาก แต่ว่าขอให้มั่นใจว่า กกต.ได้จัดระบบการเลือกตั้งให้ดีให้มากที่สุด ผิดพลาดน้อยที่สุด ขอเพียงแต่ให้ท่านผู้มีสิทธิ ในฐานะพลเมืองที่ดีได้ออกมาใช้สิทธิเยอะๆ และเป็นโอกาสที่ท่านจะแสดงถึงการเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยในเรื่องการเมืองการปกครอง และท่านยังสามารถช่วยดูแลสอดส่อง หากพบการกระทำใดๆที่ท่านเห็นว่าเป็นการทุจริต”นายอิทธิพรกล่าว
นายอิทธิพร ระบุว่า หากท่านผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้จริงๆ ขอแนะนำให้ไปแจ้งสาเหตุของการที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หรือภายใน 7 วันหลังการเลือกตั้งไปแล้ว โดยให้ไปแจ้งได้ที่สำนักงานเขต อำเภอ หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ท่านมีทะเบียนบ้านอยู่ เพราะหากท่านไม่แจ้งจะเสียสิทธิการเมืองบางประการ เช่น ไม่สามารถสมัครเป็นผู้สมัครลงเลือกตั้งได้
“พรุ่งนี้ (17 มี.ค.) เป็นวันเลือกตั้งนอกเขต หรือเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้ลงทะเบียนไว้ ส่วนท่านที่ตั้งใจจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 ขอท่านอย่าไปคนเดียว ให้ชวนเพื่อนไปใช้สิทธิ์ด้วย เพราะครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ท่านจะได้แสดงพลังประชาชนในการเลือกหนทางการเมืองการปกครองของไทยด้วยตัวของท่านเอง”นายอิทธิพรย้ำ
สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) นายอิทธิพร กล่าวว่า ขอให้ท่านผู้มีสิทธิ์เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้มั่นใจว่าการไปใช้สิทธิครั้งนี้ ท่านมีข้อมูลในการเตรียมตัวที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว โดยสามารถหาข้อมูลได้จากหลายช่องทาง เช่น เอกสารเจ้าบ้านที่กกต.ส่งไปถึงท่านแล้ว หรือสามารถตรวจสอบผ่านแอพลิเคชั่น “SMART VOTE” หรือ “ฉลาดเลือก” แอพฯ “ไลน์” รวมถึงเว็บไซด์สำนักงานกกต. www.ect.go.th ตลอดจนสอบถามผ่านสายด่วน 1444 ก็ได้
“เลือกตั้งนอกเขตพรุ่งนี้ หรือเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ท่านสามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อท่านอยู่ที่เขตใด สถานที่เลือกตั้งของท่านอยู่ที่ไหน และตรวจสอบได้ด้วยว่าการเลือกตั้งจะดำเนินการด้วยวิธีใด ข้อมูลผู้สมัคร ผลงาน และนโยบายพรรคการเมืองเป็นอย่างไร ท่านสามารถตรวจสอบได้จากหลายช่องทาง ทั้งเอกสารเจ้าบ้านที่ส่งไปถึงท่านแล้ว ตรวจสอบที่แอพ “SMART VOTE” หรือถ้าให้ง่ายกว่านั้น กดสายด่วน 1444 จะมีเจ้าหน้าที่คอยตอบคำถาม”นายอิทธิพรกล่าว
นายอิทธิพร ยังกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา โดยท่านผู้มีสิทธิที่ลงคะแนนเสียง 1 ครั้ง แต่จะมีผลติดตามมา 3 อย่าง หมายความว่า จะมีบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว และหากท่านลงคะแนนไปยังช่องหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. ที่ท่านเห็นว่าท่านจะสนับสนุนแล้ว และหย่อนบัตรเรียบร้อยแล้ว คะแนนเสียงของท่าน 1 คะแนน จะมีผลต่อผู้สมัคร ส.ส. ที่ท่านเลือก จำนวน ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ และการเลือกว่าที่ผู้สมัครรับเลือกเป็นนายกฯ
“คะแนนของท่าน 1 คะแนน จะมีผลต่อผู้สมัคร ส.ส. ที่ท่านเลือก โดยคะแนนจะไปรวมกันว่าเขาจะได้รับเลือกเป็นส.ส.เขตหรือไม่ และคะแนน 1 คะแนนที่ท่านเลือก จะถูกเอาไปรวมกับคะแนนผู้สมัคร ส.ส.คนอื่นๆทั่วประเทศ ของพรรคที่ท่านเลือก แล้วนำไปคำนวณหาส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สุดท้ายคะแนนเสียง 1 คะแนนของท่าน จะเอาไปนับรวมทั้งหมด หากพรรคของส.ส.ที่ท่านเลือกได้ 25 ที่นั่ง จะมีสิทธิเสนอรายชื่อผู้ที่รับเข้าคัดเลือกเป็นนายกฯ”นายอิทธิพรระบุ
ส่วนการเตรียมตัวก่อนไปเลือกตั้งนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ก่อนออกจากบ้านขอให้ท่านเตรียมบัตรประจำตัวให้พร้อม แต่หากบัตรประชาชนนั้นหมดอายุ ก็ยังใช้ได้แสดงตนเพื่อเลือกตั้งได้ เพราะเราต้องการเพียงภาพถ่าย และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนมี 13 หลักเท่านั้น แต่หากหาบัตรประชาชนไม่เจอ ถ้าท่านมีบัตรประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ และมีภาพของท่าน และมีหมายเลข 13 หลัก ก็ใช้แสดงตัวได้ ใบขับขี่ และหนังสือเดินทาง เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงสถานที่เลือกตั้งแล้ว ให้ท่านไปดูบอร์ดว่ารายชื่ออยู่ลำดับที่เท่าไหร่ จากนั้นให้ไปยังจุดที่จัดไว้ แล้วยื่นบัตรแสดงตนหรือบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และลงรายชื่อผู้มาใช้สิทธิ จากนั้นให้ขยับไปอีกโต๊ะหนึ่ง แล้วแสดบัตรประชาชนอีกครั้ง เพื่อรับบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง และลงชื่อว่ารับบัตรฯแล้ว จากนั้นเดินไปที่คูหาเลือกตั้ง แล้วลงคะแนนในช่องผู้สมัครส.ส.ที่ท่านเลือกเป็นรูป “กากบาท” พับบัตรตามรอยปรุ และหย่อนบัตรลงหีบลงคะแนนด้วยตัวเอง
นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนข้อห้ามในการลงคะแนนเลือกตั้งหลักๆแล้วมี 3 ข้อ คือ 1.อย่าถ่ายภาพบัตรลงคะแนนเลือกตั้งที่ท่านได้กากบาทไว้แล้ว 2.อย่าตั้งใจหรือจงใจทำให้บัตรเสีย และ 3.ท่านต้องมั่นใจว่าไม่ได้มีการพนันขันต่ออะไรเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส่วนข้อห้ามอื่นๆ เช่น ห้ามจำหน่ายแจกจ่ายสุราตั้งแต่ 18.00 ของวันก่อนวันที่จะมีการเลือกตั้ง ไปจนถึงเวลา 24.00 น.ของวันเลือกตั้ง และห้ามลงคะแนนเป็นเครื่องหมายอื่นๆ นอกจากเครื่องหมาย “กากบาท”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา นายอิทธิพร และคณะกรรมการการเลือกตั้ง นาย นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย นายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ พ.ต.อ.จรุง วิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. และผู้บริหารสำนักงาน ได้ร่วมกิจกรรม “Big Day เลือกเดิน เลือกวิ่ง เลือกตั้ง” เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และสร้างความตื่นตัวให้กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้ออกไปลงคะแนนเลือกตั้ง ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ซึ่งเป็นการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งไว้ และการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. 2562 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากบรรดานักวิ่ง ลงทะเบียนเข้าร่วมวิ่งจำนวน 1,000 คน
นายอิทธิพร กล่าวเปิดงานว่า เส้นทางสู่ประชาธิปไตยภายใต้กิจกรรมเป็นเส้นทางที่พวกเราร่วมกันเดิน ร่วมกันวิ่ง เพื่อไปถึงจุดหมายและเพื่อแสดงพลังความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน ในนามของคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงขอเชิญชวนก้าวสู่เส้นทางประชาธิปไตยภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะทุกเสียงมีความหมาย มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน สร้างสรรค์ประชาธิปไตยด้วยการไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ขอให้มาใช้สิทธิเพื่อทำให้การเลือกตั้งมีคุณภาพได้ผู้แทนที่มีคุณภาพ โดยการตัดสินใจของพลเมืองคุณภาพ
สำหรับเส้นทางการเดิน และการวิ่ง เริ่มจากบริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ผ่านไปตามเส้นทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยก จปร. แยกวิสุทธิกษัตริย์ ถนนพระสุเมธ วัดบวรนิเวศวิหาร แยกคอกวัว ศาลเจ้าพ่อเสือ เข้าสู่บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร รวมระยะทาง 3.5 กิโลเมตร การเดิน วิ่ง รณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ ยังมีการร่วมบริจาคเพื่อหารายได้ในการซื้อเครื่องกระตุกหัวใจให้สภากาชาดไทย ซึ่งการเดิน วิ่ง ทุกๆ 1 กิโลเมตร จะเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค 25 บาท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ค Fan page Big day เลือกเดิน เลือกวิ่ง เลือกตั้ง 62
นอกจากนี้ นายอิทธิพร ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีวันเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ว่า ภายหลังการนับคะแนน หากพบว่าเขตเลือกตั้งใดมีคะแนนโหวตโนมากกว่าคะแนนผู้สมัครตามกฎหมายต้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ กกต.ประกาศและดำเนินจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ และต้องประกาศวันรับสมัครด้วย ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.ชุดเดิมที่แพ้โหวตโนจะกลับเข้าสู่สนามเลือกตั้งอีกไม่ได้
