แม่ค้าออนไลน์รับมือ! หลังกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้พรุ่งนี้ กำหนดให้แบงก์ต้องรายงานธุรกรรม “ฝาก-โอนเงิน” ตั้งแต่ 3 พันครั้งขึ้นไป และ “ฝาก-โอนเงิน” ตั้งแต่ 400 ครึ่งขึ้นไป เกิน 2 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นข้อมูลในเก็บภาษี
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. เป็นต้นไป โดยพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะทำให้กรมสรรพากรมีข้อมูลที่จะนำใช้ในการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบธุรกิจค้าสินค้าทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากกำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่ต้องรายงานธุรกิจการฝากและโอนเงินตามที่กฎหมายกำหนดไว้
สำหรับสาระสำคัญพ.ร.บ.ฉบับนี้ มาตรา 3 สัตตรส กำหนดให้ (1) สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน (2) สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และ (3) ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงิน เป็นผู้มีหน้าที่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะในปีที่ล่วงมาเฉพาะที่อยู่ใน ความครอบครองต่อกรมสรรพากรภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
ขณะที่ธุรกรรมที่ต้องรายงานให้กรมสรรพากร ได้แก่ (1) ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 3,000 (สามพัน) ครั้งขึ้นไป และ (2) ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 400 (สี่ร้อย) ครั้งและมียอดรวมของธุรกรรมฝากหรือ รับโอนเงินรวมกันตั้งแต่ 2 (สอง) ล้านบาทขึ้นไป และให้อธิบดีมีหน้าที่ในการเก็บรักษาข้อมูลที่ได้รับตามมาตรานี้และให้เก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ ไม่เกิน 10 (สิบ) ปีนับแต่วันที่กรมสรรพากรได้รับข้อมูล
ทั้งนี้ มาตรา ๓ อัฏฐารส ระบุว่า หากผู้ที่มีหน้าที่รายงาน ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 3 สัตตรส ให้อธิบดีมีอำนาจพิจารณา มีคำสั่งลงโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 100,000 (หนึ่งแสน) บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 (หนึ่งหมื่น)บาท ตลอดเวลา ที่ยังฝ่าฝืนอยู่หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
“ลักษณะในการทำธุรกรรมของภาคเอกชนในปัจจุบัน ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ส่งผลให้การตรวจสอบและติดตามข้อมูลเพื่อการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรในปัจจุบันไม่อาจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการนำส่งเงินภาษี การยื่นรายการหรือเอกสารเกี่ยวกับภาษีอากร และเพื่อให้กรมสรรพากรได้รับข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บภาษีอากร จึงสมควรปรับปรุงวิธีการนำส่งเงินภาษีบางประเภท และการยื่นรายการหรือเอกสารเกี่ยวกับภาษีอากร”เหตุผลในการประกาศใช้พ.ร.บ.ระบุ
อ่านเพิ่มเติม http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/034/T_0023.PDF