“เพื่อไทย” บุกร้อง “กกต.” ปูดบัตรเลือกตั้งเขตบางกะปิหายไป 180 ใบ ร้องจัดเลือกตั้งใหม่ ด้าน “ลดาวัลลิ์” จี้กกต.ยกเลิกกรรมการสรรหา ส.ว. ซัด “คสช.” ชงเองกิงเอง หวั่นไม่เป็นกลาง จ่อเลือก “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ
23 เม.ย.62-นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภา สผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย กทม. เขต 13 บางกะปิ–วังทองหลาง (แขวงพลับพลา) เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน เนื่องจากมีหลักฐานพบว่ามีบัตรเลือกตั้งหายไปกว่า 180 ใบในหน่วยเลือกตั้งที่เขตบางกะปิ โดยนายตรีรัตน์เรียกร้องให้ กกต.ออกมาชี้แจงว่าบัตรเลือกตั้งหายไปได้อย่างไร เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งที่ 13 มีจำนวนบัตรที่ได้รับจัดสรรจำนวน 860 ใบโดยมีบัตรเลือกตั้งที่ใช้จำนวน 594 ใบแบ่งเป็นบัตรดี 596 ใบบัตรเสีย 12 ใบบัตรโหวตโน 13 ใบ เมื่อรวมกับบัตรเลือกตั้งที่เหลือจะอยู่ที่ 266 ใบ แต่จำนวนบัตรเลือกตั้งที่เหลือตามแบบส.ส. 5/18 กลับอยู่ที่ 86 ใบทำให้บัตรหายไป 180 ใบได้อย่างไร จึงอยากให้ กกต.ออกมาเปิดเผยผลคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้งพร้อมให้จัดการเลือกตั้งใหม่
“คาดว่า เป็นไปได้หรือไม่หน่วย 13 มีบุคคลนำบัตรออกไปข้างนอก แต่ไม่สามารถนำเอากลับเข้าข้างในหน่วยได้ ดังนั้นจากการเจอพิรุธครั้งนี้ ขอให้กกต.ต้องเปิดเผยผลคะแนนทุกหน่วย เพื่อความโปร่งใส่และความชัดเจนจากกกต.ด้วย“นายตรีรัตน์กล่าว
จากนั้นเวลา 10.30 น. นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เดินมาที่ กกต.เช่นกัน เพื่อยื่นเรื่องขอให้ยกเลิกการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ที่ไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยนางลดาวัลลิ์ ระบุว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 269 (1) กำหนดให้มีคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่ถูกแต่งตั้งมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ด้านต่างๆ โดยเฉพาะต้องมีความเป็นกลางทางการเมืองจำนวนไม่น้อยกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 12 คน เพื่อทำหน้าที่สรรหาผู้สมควรเป็น ส.ว. แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้แต่งตั้งให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าคสช. เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ส่วนกรรมการสรรหาส่วนใหญ่ ก็มาจากคนในคณะคสช. และรัฐบาลซึ่งถือว่า เป็นบุคคลที่ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง
นางลดาวัลลิ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ กลับอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ ทำให้การดำเนินการดังกล่าว มีผลเท่ากับว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้แต่งตั้งพล.อ.ประวิตร และคนของตัวเองในคสช. เพื่อไปสรรหา ส.ว.มาให้ตนเองได้เลือก โดยเมื่อเลือกส.ว.ได้แล้ว ส.ว.เหล่านี้ก็จะไปเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีชื่อพล.อ.ประยุทธ์อยู่ด้วย จึงเท่ากับว่าเป็นการชงเองกินเอง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเห็นว่ากระบวนการส.ว. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะกรรมการสรรหา ส.ว. ยังอยู่ในฝ่ายสนับพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้คณะกรรมการสรรหา ส.ว.จะไม่มีความเป็นกลาง จึงขอให้กกต.พิจารณายกเลิกคณะกรรมการสรรหาส.ว. พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาที่เป็นกลางจริงๆเพื่อมาสรรหาส.ว.ใหม่ด้วย