เจ้าหน้าที่่ตำรวจ ประสานกำลังชุดสอบสวนเมืองขอนแก่น และ ชุดสอบสวน จ.ตราดไล่ล่า
นายธงชัย กลางเมือง หรือที่รู้จักกันในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด “ไอ้ตั้ม ไส้แตก” มือฆ่า “น้องเอ๋ย” น.ส.ปัสญา ปวงสุข หรือ น้องเอ๋ย ก่อนนำศพไปโยนทิ้งน้ำในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 62 ที่ผ่านมา และหลบหนีพร้อมกับ กิ๊กสาว คือ น.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา และ เวลา 18.30 น. ของวานนี้ (25เม.ย.) เป็นวันสิ้นอิสรภาพของนายธงชัย หรือ “ไอ้ตั้ม ไส้แตก”
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเมืองขอนแก่น เร่งกาะรอยการถูกฆ่ากรรมของน้อยเอ๋ย โดยเบื้องต้นสืบทราบว่า คืนเกิดเหตุนายธงชัย หรือตั้ม พร้อมด้วย น.ส.ธรรมภัสสร และน้องเอ๋ย และนายอธิป พุทธสงกรานต์ พยาน ได้กลับจากไปเที่ยวที่ร้านอาหาร ก่อนพากันกลับมายังที่พักของ ตั้ม ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมืองขอนแก่น และได้พากันมาตั้งวงดื่มสุรากันต่อที่ห้องของตั้ม
ขณะตั้งวงดื่มสุรากัน ตั้ม เกิดไม่พอใจน้องเอ๋ย ที่เข้าไปพูดคุยและถ่ายภาพกับผู้ชายในร้านอาหาร จึงเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ทำให้ ตั้ม ได้ใช้ปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ศรีษะของน้องเอ๋ยจำนวน 1 นัด จนเสียชีวิต ก่อนตั้มและ น.ส.ธรรมภัสสร จะช่วยกันนำศพไปทิ้งไว้ในคลองน้ำห่างจากคอนโดประมาณ 10 กม.เพื่ออำพรางศพ ก่อนที่จะมีชาวบ้านมาพบเห็นในเวลาต่อมา
หลังก่อเหตุนายธงชัย หรือตั้ม พร้อมด้วย น.ส.ธรรมภัสสร ได้หลบหนีจากพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น ต่อมาได้แยกกันหลบหนี จนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ขอนแก่นได้เบาะแสว่า นายธงชัย หรือตั้ม หนีมากบดานบ้านเพื่อนที่จังหวัดตราด จึงได้ประสานมายัง พล.ต.ต.ประสาน บุญเหมือน ผบก.ภ.จว.ตราด ให้รับทราบ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนหาข่าว และสั่งการให้มีการตั้งด่านอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายแดน
จนกระทั่งเวลา 18.30 น. กองกำกับการสืบสวนสอบสวน จ.ตราด นำโดย พ.ต.อ.ประภาส เหมือนปิ๋ว ผกก.สส.ภ.จว.ตราด สืบทราบมาว่านายธงชัย หรือ ตั้ม ได้มากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.ตราด จึงได้นำกำลังตรวจสอบพบนายธงชัย อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 967/21 ม.1 ต.วังกระแจะ อ.เมือง
จ.ตราด จึงได้จับกุมตัวตามหมายจับของจังหวัดขอนแก่น ก่อนควบคุมตัวมายังสอบสวนยังกองกำกับการสืบสวนสอบสวน จ.ตราด
จากการสอบสวนในเบื้องต้นนายธงชัย รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างเหตุแรงจูงใจเกิดความหึงหวงจึงลงมือฆ่าน้องเอ๋ย ก่อนนำศพไปทิ้งน้ำ และได้หลบหนีมาจังหวัดตราดด้วยรถแท็กซี่ โดยมาหาเพื่อน ส่วนอาวุธปืนได้โยนทิ้งไปหลังก่อเหตุ ขณะหลบหนีตนเองรู้ตลอดเวลาว่า ถูกตำรวจตามจับตัวจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และสุดท้ายก็หนีไม่รอด
