วันที่ 25 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 4 บ้าน โพน ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี บ้านของนางจูมศรี สีกันยา อายุ 72 ปี และนายบัวสา สีกันยา อายุ 75 ปี พ่อแม่ของ นางลำดวน สีกันยา อาร์มิเทจ “สตรีแห่งขุนเขา” พบว่าทั้ง 2 คนได้จุดธูปที่หน้ารูปถ่ายของนางลำดวนลูกสาว เพื่อบอกให้ดวงวิญญาณของลูกให้ดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอังกฤษ ช่วยดำเนินการนำเถ้ากระดูกของลูกสาวกลับมาบ้านเกิด มาให้ได้ ด้วยความราบรื่น เพื่อที่จะได้นำมาทำบุญให้ด้วยขณะนี้เรื่องยังเงียบอยู่
นางจอมศรี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ หลานชายซึ่งเป็นลูกชายคนโตของนางลำดวน กับสามีชาวอังกฤษ ได้เดินทางมาตามหานางลำดวน แม่เขาว่าจะพาไปเมืองจีนเพื่อไปร่วมงานแต่งงานของเขาด้วย เขาทราบจากพ่อว่าแม่หนีมาแต่งงานใหม่ที่ จ.อุดรธานี นานแล้ว เมื่อไม่พบแม่ หลานชาย จึงเดินทางกลับไปแต่งงานที่เมืองจีน ตนจึงร้อนใจมากไม่รู้ว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จึงได้ไปหาหมอธรรมหรือคนทรง หลายแห่งหลายที่ ทุกแห่งบอกว่า ลูกสาวเสียชีวิตนอนแนบนิ่งเหมือนโดนถูกขังเอาไว้ ทำให้วิญญาณไม่ได้ไปผุดไปเกิด หลังจากนั้นก็มีหน่วยงานออกมาช่วยเหลือ ผลตรวจดีเอ็นเอของตนกับสามีและลูกที่เกิดจากสามีคนไทยที่อยู่ที่อังกฤษ ตรงกับดีเอ็นเอของ “สตรีแห่งขุนเขา” ต่อมาก็ได้มีตำรวจอังกฤษมาหาตนที่บ้านพัก และชี้แจงเกี่ยวกับกฎหมายทางอังกฤษว่า ถ้าสามีของลูกสาวไม่เซ็นให้ก็ไม่สามารถขุดหรือนำศพขึ้นมาได้ จึงทำให้สิ้นหวังเพราะสามีของลูกสาวไม่ยอมเซ็นให้ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มาดำเนินการช่วยเหลือก็เงียบหายไปและไม่มีการแจ้งความคืบหน้าให้ตนทราบ ถึงความคืบหน้าแต่อย่างใด และเมื่อวานนี้เจ้าของร้านที่ขายธาตุเก็บกระดูก ได้ติดต่อมาว่าจะไปเอาธาตุวันไหน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้วางมัดจำไว้ 4,000 บาท ยังเหลืออีก 22,000 บาท ตนก็บอกไปว่าขณะนี้กระดูกยังไม่มา จึงยังไม่ไปเอาได้
นางจอมศรี กล่าวต่อว่า ในวันนี้ ตนกับสามี จึงได้พากันจุดธูปหาบอกดวงวิญญาณลูกให้ไปช่วยดลบันดาลใจให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายอังกฤษ ที่รับผิดชอบ ให้ช่วยดำเนินการ เป็นไปได้ด้วยความราบรื่นในการนำเถ้ากระดูกของลูกสาวกลับมาประเทศไทย เพื่อจะได้ประกอบพิธีทางศาสนาให้แต่ถ้าไม่ได้เถ้ากระดูกลูกกลับมา ตนก็จะทำหุ่นขี้ผึ้งมาแทนเถ้ากระดูกของลูกสาว แล้วทำพิธีทางศาสนาหรือทำบุญแจกข้าวให้แก่คนตาย ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดวันเวลาได้ เพราะยังไม่มีเงิน ต้องดูหลังเก็บเกี่ยวข้าวก่อนว่าสามารถเก็บเกี่ยวข้าวแล้วขายได้เท่าใด พร้อมกับปรึกษากับญาติพี่น้องด้วย