“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เดินเกมรุกเปิดตลาดใหม่บุกมณฑลกวางซี พร้อมลงนามซื้อขายมันสำปะหลังมูลค่า 18,000 ล้านบาท และเร่งเปิดตลาดสินค้าเกษตรอื่นๆ
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และเอกชน เดินทางมาที่เมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย. 62 ว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจีนได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตร (เอ็มโอยู) ร่วมกัน ระยะเวลา 1 ปี คิดเป็นมูลรวมกว่า 18,100 ล้านบาท แบ่งเป็น ผลไม้ไทย 100 ล้านบาท และมันสำปะหลัง 2.68 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 18,000 ล้านบาท ได้แก่ มันเส้น 2.60 ล้านตัน และแป้งมัน 80,000 ตัน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทำสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตร กับผู้ประกอบการมณฑลกว่างซีครั้งนี้ ถือเป็นตลาดใหม่ของไทยที่มีอนาคตเข้าทำตลาดมากขึ้น และหลังจากนี้ช่วงเดือนต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะจัดนิทรรศการเผยแพร่ผลไม้ไทยมณฑลกว่างซีมากขึ้น เพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออก โดยปัจจุบันจีนนำเข้าผลไม้จากไทยมากที่สุด ทั้งทุเรียน มังคุด และลำไย พร้อมจะประชาสัมพันธ์มะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นผลไม้ดาวรุ่งเข้าไปเปิดตลาดด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตลาดยางพารานั้น กระทรวงพาณิชย์และการยางแห่งประเทศไทย จะเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม โดยได้หารือร่วมกับบริษัทชิโนเค็ม ซึ่งเป็นผู้ประกอบรายใหญ่ของจีน คาดว่าการเจรจาครั้งนี้จะเกิดการซื้อขายยางพาราจริงในอนาคต รวมทั้งพบว่าผู้ประกอบการจีนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนที่ไทยด้วย เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยอำนวยความสะดวกแล้ว ซึ่งสามารถลงทุนที่จังหวัดสงขลาได้ เพราะมีนิคมอุตสาหกรรมยางและส่งสินค้าลงเรือได้ที่ท่าเรือสงขลาและท่าเรือปีนังได้ทันที
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้หารือร่วมกับนายหาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีจีน (คนที่1) ทั้งการสนับสนุนการนำเข้าสินค้าจากไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ทั้งข้าว ยางพารา ไก่ และผลไม้ ซึ่งปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งและเป็นนักลงทุนอันดับต้นของไทย โดยปี 64 ทั้ง 2 ฝ่ายตั้งเป้าหมายการค้าร่วมกันไว้ที่ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งจะผลักดันเอ็มโอยูการขายสินค้าเกษตรระหว่างไทยและจีนให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งข้าว 2 ล้านตัน ส่งมอบแล้ว 700,000 ตัน ส่วนยางพารา 200,000 ตัน ส่งมอบแล้ว 16,000 ตัน