แม่พาลูกสาวัย 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 แจ้งความตำรวจ หลังถูกเด็กชายวัย 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 ข่มขืน และให้ทำเมคเลิฟมาอย่างน้อย 3 ครั้ง พร้อมกับข่มขู่จะนำประจารให้เพื่อนรู้ผ่านเฟสบุ๊ค และจะข่มขืนไปจนกว่าจะมีประจำเดือน
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ค. 60 ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แม่พาลูกสาว วัย 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4
โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.รชกฤติ ภูวเดชเดชาสิน รองสารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ โดยให้การว่า ลูกสาวได้ถูกเด็กชายแทน อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ล่วงละเมิดทางเพศ และทำอนาจาร ทั้งข่มขืน และให้เมคเลิฟ มาเเล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง รวมทั้งข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร ไม่งั้นจะถูกทำร้าย แต่ลูกสาวทนไม่ไหว จึงตัดสินใจนำไปเล่าให้ยายฟัง
แม่ของเด็กหญิงคนนี้ให้การกับตำรวจว่า ลูกสาวอาศัยอยู่กับยายเพียงลำพัง 2 คน ในบ้านเช่าภายในซอย 34 ถ.เพชรเกษม ย่านหาดใหญ่ใน เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เนื่องจากตนไปมีสามีใหม่อยู่ที่ จ.ตรัง โดยลูกสาวเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
โดย ด.ช.แทน ซึ่งรู้จักกันดี เพราะ มีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน ได้หลอกชวนให้ออกไปเล่นนอกบ้านในตอนกลางคืน แต่กลับพาไปปลุกปล้ำข่มขืนที่บ้านพักคนงานก่อสร้างใกล้บ้าน และข่มขู่ไม่ให้บอกใคร ไม่งั้นจะต่อย และจะนำเรื่องนี้ไปลงในเฟสบุ๊คประจานให้เพื่อน และคนแถวบ้านรู้ เเถมยังข่มขู่ด้วยว่า จะข่มขืนไปจนกว่าจะมีประจำเดือน และได้ใจพาไปข่มขืนมาอย่างน้อย 3 ครั้ง และบางครั้งก็ให้เมคเลิฟด้วย
สุดท้ายเรื่องมาแดง เพราะ ลูกสาวทนไม่ไหว จึงได้นำเรื่องมาฟ้องยาย และยายได้โทรศัพท์ไปบอกตน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ซึ่งมีเด็กชายอีก 2 คน ที่เห็นเหตุการณ์นี้ มาเป็นพยานด้วย
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับทำหนังสือส่งตัว ด.ญ. คนดังกล่าว ไปให้แพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตรวจพิสูจน์ เพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืน และจะเรียกตัว ด.ช.แทน มาทำการสอบสวนร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ทั้งนักสังคมสงเคราะห์ จิตแพทย์ เเละ อัยการ ว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร เพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป