ตีแผ่ ขบวนการอุ้มบุญ 2 ที่มีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ด่านศุลกากรหนองคาย ที่ 6 สาวชาวไทยยอมรับว่าออกไปเพื่อทำหน้าที่แม่พันธุ์ฝั่งไข่เพื่อรับตั้งท้อง โดยขบวนการนี้พบว่าน่าจะมีคลีนิกในไทย ร่วมกับชาวจีนที่ทำหน้าที่นายหน้าหาครอบครัวที่อยากมีลูกและมาทำอุ้มบุญ แต่เนื่องจากไทยมีกฏหมายอุ้มบุญ ที่เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ไปติดตามการตีแผ่ ขบวนการอุ้มบุญ 2 ครั้งนี้
เป็นครั้งที่ 2 ที่ด่านศุลกากรหนองคาย ตรวจพบถังไนโตรเจน ที่จัดเก็บความเย็น ซึ่งเหมือนกับถังที่เคยตรวจพบเมื่อเดือนเมษายน ที่มีชายคนหนึ่งยอมรับว่ารับจ้างขนอสุจิเพศชาย
แต่การตรวจพบในรถยนต์ เชฟโรเลตเมื่อวานนี้ ถังไนโตนเจนที่คล้ายกัน ไม่มีความเย็นและไม่มีการบรรจุ ไม่มีเชื้ออสุจิ ตัวอ่อนอยู่ภายใน
มีเพียงกล่องโฟมที่ปิดเทปกาวหนาแน่น เมื่อเปิดดูพบว่า ภายในมีหลอดพาลสติก รูปทรงกรวย ขนาด 2 เซ็นติเมตร สำหรับใส่เชื้ออสุจิ 42 หลอด
ด้านบนปิดแถบพลาสติกเขียนตัวอักษร yy / tj / yg แต่ละหลอดระบุวันที่ไว้ด้วย เช่น 18/5/17 , กล้องจุลทรรศน์ 1 ตัว พร้อมเครื่องสำรองไฟ 1 เครื่อง
โดยนายนายนิคม สีมารัตน์ ชาวกทม.เป็นคนขับ และมีหญิงสาว 6 คน อายุระหว่าง 25-34 ปี นั่งโดยสารมาในรถจนเต็ม
โดยมี น.ส.ศิญาพร หรือ แขก ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นผู้นำพามา และ
และมีหญิงสาวชาวไทย จำนวน 6 ราย หญิงชาว กทม. 3 ราย / ชาวนครพนม 1 ราย และ ชาวสุรินทร์ 1 ราย
หลักจากการสอบสวนผู้ที่โดยสารมากับรถทั้งหมด ซึ่งแต่ละคนให้การไม่ตรงกัน แต่ยอมรับว่า ถูกจ้างราคาตั้งแต่ 1 แสนบาทไปจนถึง 4 แสน หากสามารถตั้งครรภ์ได้
โดยในตัวของ นางสาวแขก มีหลักฐานชิ้นสำคัญ เป็นสมุดจดบันทึกรายชื่อหญิงสาว และผลการใส่ตัวอ่อน ว่าติดหรือไม่ ที่บ่งบอกได้ว่านี่คือขบวนการอุ้มบุญ 2 แต่เนื่องจากบุคคลทั้งหมดไม่ได้กระทำผิด จึงได้รับการปล่อยตัวไป
ทีมข่าวโทรศัพท์ ตรวจสอบกับ นางสาว แขก อ้างว่าเป็นเพียงแค่ผู้ดูแล และถูกจ้างให้นำพาหญิงสาว ข้ามไปฝั่งลาว มาแล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้ไปเมื่อ 17 พฤษภาคม แต่ไม่มีการฝั่งตัวอ่อน เพราะเกิดฝนตกหนัก และเมื่อข้ามแดนกลับมาฝั่งไทยเมื่อวานนี้ก็ถูกตรวจพบ โดยเธอระบุว่าเป็นเพียงลูกจ้าง ที่นายจ้างเป็นชาวจีน ชื่อนายหรัน จ้าว เท่านั้น
( กราฟิก )
จากการตรวจสอบข้อมูลของศุลกากรหนองคาย ทำให้พบว่า ขบวนการอุ้มบุญ ภาค 2 เกิดขึ้นจริง โดย มีคลีนิก ในไทย เป็นผู้จัดหา ตัวอ่อน และอสุจิ จากนั้นจะมีการนำพาไปที่ประเทศลาว คล้อยกับเหตุการณ์ที่เคยมีชายคนหนึ่งนำ ไนโตรเจนบรรจุ ตัวอ่อ่น และอสุจิข้ามไป ฝั่งลาวเมื่อเดือนเมษายน อีกทีมจะเป็น ชาวจีน ที่มีตัวแทนเป็นคนไทยคอยทำหน้าที่หาแม่พันธุ์ที่มีสุขภาพแข็งแรง จากนั้นจะเดินทางไปที่ประเทศ ลาว โดยไปฝั่งตัวกันที่ วีไอพีคลีนิก ซึ่งเป็นสถานที่ทำการฝั่งตัวอ่อ่นในหญิงไทย
และนี่ไม่ใช่การเดินทางครั้งแรกของขบวนอุ้มบุญ เนื่องจากรถยนต์ เชฟโรเลฟ เข้าออกมาแล้วถึง 6 ครั้ง และ นางสาวแขก ยอมรับว่านำพา หญิงสาวไทย ประมาณ 3 – 4 คน เดินทางไปฝังตัวอ่อนที่ประเทศเพื่อนบ้านมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งโดยจะพาไปพักที่โรงแรม ดวงดี ในเมืองนครเวียงจันทร์ และจะมีทีมแพทย์ของที่นั้นมารับไปเพื่อทำการฝังตัวอ่อนของไข่ให้กับหญิงไทยทั้งหมด
เนื่องจากประเทศลาว ยังไม่มีกฎหมายอุ้มบุญ ที่เป็นเช่องโหว่ตให้ ขบวนการอุ้มบุญ จากไทยเกิดขึ้นอีกครั้ง
ฉัตปณิดาศ์ จันทร์ศิริ ไบรท์นิวส์ รายงาน
