หลังมีกระแสข่าว ว่ากระทรวงการต่างประเทศ เตรียมพิจารณาเพิกถอนพาสปอร์ต น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังหนีศาลฎีกาฯ ไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีรับจำนำข้าว และถูกออกหมายจับ ล่าสุดทีมข่าวไบรท์ทีวี สอบถามไปยังอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่มีรายงานเรื่องนี้ ขอรอศาลกับตำรวจแจ้งดำเนินการก่อน
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกับทีมข่าวไบรท์นิวส์ ถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังนครดูไบ หลังไม่มาขึ้นศาลฟังคำพิพากษา ในคดีปล่อยปะละเลยให้เกิดการทุจริตข้าว ในโครงการรับจำนำข้าว 25 ส.ค. ว่า เรื่องนี้ตนเองก็ทราบจากข่าวว่า เป็นเช่นนั้น
แต่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่มีการหารือถึงเรื่องถอนถอนพาสปอร์ตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปนครดูไบเพื่อไปหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่
สำหรับแนวทางเพิกถอนหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ผู้ที่ถูกออกหมายจับนั้น ตามขั้นตอนของกระทรวงการต่างประเทศ ต้องแจ้งว่าการยกเลิกหนังสือเดินทางต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 23 (2) ที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกหรือเรียกหนังสือเดินทางได้ เมื่อปรากฏภายหลังว่าผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อาจออกหนังสือเดินทางได้ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว
ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องทำหนังสือมาถึงทางกระทรวงก่อน เพื่อขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทางผู้ต้องหาคดีในคดีอาญา ขณะเดียวกันศาลมีสิทธิเพิกถอนหรือระงับหนังสือเดินทางผู้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดเพื่อป้องกันไม่ให้หลบหนีออกนอกประเทศ เมื่อมีการส่งเรื่องแจ้งที่กระทรวงแล้ว จะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบต่อไป
ด้านพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับทีมข่าวไบรท์นิวส์ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ใดในประเทศหรือต่างประเทศ ทราบข่าวเพียงข่าวผ่านสื่อเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ไม่ได้มีความกังวลหรือสั่งอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้