มาติดตามคดีหญิงสาวหลอกชายหนุ่มหลายคนแต่งงาน บรรดาสามีของนางสาวจริญาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ นางสาวน้ำ เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง กับนางสาวจิรภรณ์และพ่อแม่ รวมถึงหญิงสาวชื่อ สร้อยเพ็ชร เจ้าของบัญชีธนาคารและที่ถูกนางสาวจิรภรณ์ ใช้แอบอ้าง โดยมีเจ้าบ่าวและชายที่เธอหลอกลวง 13 คนเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว
สามีของ “น้ำ” มากองปราบ
นี่คือบรรดาอดีตเจ้าบ่าวของสาวแสบ น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ “น.ส.น้ำ” ที่หลอกให้แต่งงานด้วย เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการกองปราบปราม เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกัน 4 คน ประกอบด้วย นายประสาน เทียมแย้ม หรือตู่ เจ้าบ่าวปี 2558 , นายอนุชิต ประมวล หรือยอด เจ้าบ่าวปี 2558 , นายวิพล บัวสุวรรณ หรือรถ เจ้าบ่าวปี 2559, นายไพรัช พึ่งสุข หรือยุ่ง เจ้าบ่างปี 2560 และ นางสาวขนิษฐา หอมหวล หรือแอน น้องสาวของ วิชิต หอมหวล เจ้าบ่าวปี 2560 เป็นตัวแทนแทนพี่ชายวิชิต เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม โดยมีทนายสงกรานต์ อัจฉริยทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ เป็นทนายความนำมาแจ้งความ
โดยมีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 ราย เพราะทางบรรดาสามี หรือ ผัวๆๆ เชื่อในพฤติกรรมว่าทำเป็นขบวนการเครือญาติ
เริ่มต้นที่ พฤติกรรมของนางสาวจริญาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ นางสาวน้ำ หรือชื่อ น้ำมนต์ หรือ ชื่อ พร ซึ่งพบว่าเปลี่ยนถึง 7 ชื่อจากการตรวจจากบรรดาผัวๆๆ มาถึงก็เล่าว่านางสาวจิรภรณ์ ใช้ถึง 7 ชื่อด้วยกัน และ ถูกแจ้งข้อหาฉ้อโกง โดยพบว่า น.ส.จริยาภรณ์ หลอกผู้ชายมาแต่งงานด้วยไม่ต่ำกว่า 6-8 คน โดยมีมูลค่าสินสอดทองหมั้นที่เอาไปจากบรรดาเจ้าบ่าว ประมาณ 1 ล้าน 8 แสนคน และรถยนต์ทั้งกระบะ และเก๋ง อีกหลายคัน จากบรรดาชายที่ขึ้นว่าเป็นสามี หรือเป็นผัว
นอกจากนี้ บรรดาผัวๆ หรือบรรดาสามี ยังแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายที่ 2.คือ นางสาวสร้อยเพ็ชร ซึ่งเป็นชื่อของหญิงสาวคนหนึ่งนางสาวจริญาภรณ์ สีโต หรือ บัวใหญ่ เจ้าสาวแสบใช้ตอนแต่งานกับ นายประสาร เทียมแย้ม หรือตู่ เจ้าบ่าวเมื่อปลายปี 2558 และยังเป็นชื่อของเจ้าของบัญชีธนาคารที่ให้บรรดาผัวๆๆๆ ส่งเงินเข้าบัญชีมาให้
พฤติการณ์ของ นางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ สงสัยว่ามียักยอก ฉ้อโกง เนื่องจากไม่ได้ใช้ชื่อจริง สกุลจริงในการแต่งงานทุกครั้ง
ตั้งแต่ปี 2557-2560 ส่วน น.ส.สร้อยเพ็ชร ที่แจ้งความ เพราะเป็นผู้ให้บัญชี บัตรเอทีเอ็ม และบัตรประจำตัวประชาชนกับนางสาวจริยาภรณ์ เพื่อให้ทางเจ้าบ่าวโอนเงินให้ผ่านบัญชีนี้ อีกทั้งข่าวออกไปมาหลายวัน แต่ไม่ได้ไปติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่ตนอาศัยอยู่ เพื่อรายงานตัวว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เจ้าบ่าวยังแจ้งความ คนที่ 3.นายบุญเลี้ยง บัวใหญ่ พ่อของนางสาวจริยาภรณ์ และแจ้งความคนที่ 4 คือ นางสำรอง บัวใหญ่ แม่ของนางสาวจิรภรณ์ เพราะพบพฤติกรรมของพ่อและแม่ ยังมีการต่อต่อกับนางสาวจิรภรณ์ ทางโทรศัพท์ตลอด และที่เป็นหลักฐานสำคัญคือ ในงานแต่งงานหลายต่อหลายครั้ง พ่อและแม่ต่างร่วมเป็นสักขีพยานในงานแต่งงาน เช่นเมื่องานแต่งงานวันที่ 5 พฤษภาคม ปี 2560 เจ้าบ่าวคือ วิชิต หอมหวล หรือ ชื่อเล่นว่า โก้ พบว่าในงานแต่งงาน นายบุญเลี้ยง พ่อเจ้าสาว ใส่ผ้าไหมสีเหลือง และนาง สำรอง แม่ใส่ชุดผ้าไหม่สีชมพู ปล่อยผม นั่งบนโซฟากับพ่อแม่เจ้าบ่าว และเจ้าสาวนางสาว น้ำ ใส่ชุดแต่งงานเป็นสไบข้าง สีเหลือง โดยแต่งงานที่บ้านปทุมธานี
ต่อมาอีก 2 สัปดาห์ คือ 23 พฤษภาคม 2560 บ้านปทุมธานี จัดงานแต่งอีกครั้ง กับ เจ้าบ่าวคือ ไพรัตน์ พึ่งสุข ชื่อเล่นว่า ยุ่ง โดยพบว่า พ่อเจ้าสาว นายบุญเลี้ยง ใส่เสื้อสีเหลืองผ้าไหมตัวเดิม ส่วนแม่เจ้าสาวใส่ชุดผ้าไหมสีชมพู รวบผม และเจ้าสาวนางสาว น้ำ ใส่ชุดแต่งงานเป็นสไบข้าง สีเหลือง ชุดเดิม โดยเหตุผลที่ต้องออกหมายจับนายบุญเลี้ยงและนางสำรองผู้เป็นพ่อแม่ไปร่วมงานแต่งงานของนางจริยาภรณ์ทุกครั้ง เช่นเดือนพฤษภาคม มี 2 งาน ก็ไปร่วมงานแต่งทุกครั้ง ตั้งข้อสงสัยว่า จะไม่มีส่วนรู้เห็นจริง อย่างไร และพบว่า พ่อแม่ ยังใช้ชื่อปลอมและนามสกุลปลอมให้สอดคล้องกับตัวนางสาวจริยาภรณ์ ในการหลอกลวงปรากฏในการด์แต่งงาน เพื่อ หวังเงินสินสอด ความผิดของทั้งหมด กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 กระทำความผิดฐานฉ้อโกง
อดีตเจ้าบ่าวที่ถูกหลอกให้แต่งงานด้วย 2 คน คือ คุณไพรัช สามีที่แต่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 และ คุณประสาร หรือคุณตู่ สามีที่แต่งเมื่อ ปี 2558 บอกว่าที่ต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวน้ำ เพราะไม่อยากให้ผู้ชายถูกหลอกลวงอีก และอยากเตือนภัยกับสังคม บรรดาผู้ชายที่ถูกนางสาวน้ำหลอกให้แต่งงานและหลอกลวงมาให้ข้อมูลประมาณเกือบ 13 คนแล้ว และหากมีผู้ชายที่ถูกนางสาวน้ำ หลอกลวงอีก ก็ให้มาร่วมแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มได้
มาไล่เรียงสำหรับผู้ชาย 13 คนที่เข้าให้ข้อมูล
คนที่ 1. ชาติ แต่งงานเมื่อปี 2554
คนที่ 2. นายมนตรี ชาวกรุงเทพมหานคร แต่งงานที่ คาซารูน่า บางพระ ชลบุรี ปี 2555 สินสอด 1 แสนบาท ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์หลอกเงินไป 4 แสนบาท
คนที่ 3 . 9 พฤศจิกายน 2558 เจ้าบ่าวคือ นายประสาน เทียมแย้ม ชื่อเล่นว่า “ตู่” เจ้าบ่าวจาก จ.ชุมพร ให้สินสอด ของหมั้น ประมาณ 400,000 บาท ไม่แน่ใจโอนเงินสดหรือเช็คพร้อมทอง 2 บาท
ธันวาคม 2558 เจ้าบ่าวคนที่ 4. นายอนุชิต ประมวล ชื่อเล่นว่า “ยอด” เจ้าบ่าวจาก จ.ระยอง เกิดเหตุที่ อุดรธานี ให้สินสอด ของหมั้น เงินสด และ ทองคำ 3 บาท ประมาณ 400,000 บาท
ปี 2559 คนที่ 5 นิพนธ์ (วิพล) บัวสุวรรณ ชื่อเล่น “รถ” จังหวัดยโสธร คบหาดูใจลองชุดแต่งงาน แต่หลอกเอาสินสอด ของหมั้น ประมาณ 520,000 บาท ทั้งโอนและเงินสด ครั้งแรก 180,000 โอนรวมทั้งพี่สาว โดนหลอกค้าผลไม้ อีก 120000 บาท รวมทั้งให้ทอง 2 บาท รถยนต์วีโก้ป้ายแดง 1 คัน
มีนาคม 2560 คนที่ 6 ปรเมศร์ นะโส อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี คบหาลองชุดแต่งงาน สินสอด 2 แสนบาท ทองคำ 1 บาท แต่จับได้ว่าคบหากับผู้ชายคนที่ 7 คือ คุณวิชิต จึงให้เลือก ทางคุณน้ำ เลือกคุณวิชัต เพราะให้สินสอดมากกว่า
5 พฤษภาคม 2560 เจ้าบ่าวคนที่ 7 วิชิต พอมพวล ชื่อเล่นว่า “โก้” ให้สินสอด ของหมั้น 200,000 บาท โดยการโอนเงิน ทอง 4 บาท รวม 4 แสน แต่งงานที่บ้านใน จ.ปทุมธานี
ต่อมาอีก 2 สัปดาห์ คือ 23 พฤษภาคม 2560 น้ำจัดพิธีแต่งงานกับเจ้าบ่าวคนที่ 8 คือ ไพรัตน์ พึ่งสุข ชื่อเล่นว่า “ยุ่ง” ของหมั้น รวม 180,000 บาท รอบพรีเวดดิ้ง 80,000 บาท โอนให้บัญชีสร้อยเพชร พาลีวรรณ รอบแต่งงาน เงินสด 100,000 บาท ทอง 1 บาท วีโก้ 1 คัน ใช้สถานที่บ้านใน จ.ปทุมธานี แห่งเดียวกัน
สิงหาคม 2560 เจ้าบ่าวคนที่ 9 น้อย (นามสมมติ) เจ้าบ่าวจาก จ.ปราจีนบุรี ให้สินสอด ของหมั้น ประมาณ 180,000 บาท ทอง 1 บาท ไม่ปรากฎตัวออกสื่อและไม่ขอยุ่งเกี่ยว เพราะแค่นี้ก็พอแล้ว!
และยังมีว่าที่เจ้าบ่าวคนที่ 10 นายปัญญากรณ์ นะโส อายุ 37 ปี จาก จ.ชลบุรี ที่มาเปิดเผยตัวและถูกหลอกเอาเงินไป 30,000 บาท เพื่อเตรียมแต่งงาน หนีหายไปเลย ปิดเฟซบุ๊ก ปิดไลน์ เมื่อ 2 วันก่อนแจ้งความไว้ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี
