ยังคงมีความคืบหน้าของเจ้าสาวแสบตุ๋นเงินเจ้าบ่าวนับ 13 ราย นางสาวสร้อยเพ็ชร มาลีวัลย์ มาลีวัลย์ หญิงสาวที่ถูกสวมชื่อมาใช้เปิดบัญชี เข้ารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบแล้ว
น.ส.สร้อยเพ็ชร มาลีวัลย์ ซึ่งเป็นหญิงสาวที่เป็นเจ้าของชื่อบัญชีธนาคารที่ น.ส.จริญาภรณ์ บัวใหญ่ ใช้เพื่อให้ผู้ชายโอนเงินเข้ามาให้บัญชี เข้ารายการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบปรามเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดย น.ส.สร้อยเพ็ชร พร้อมกับสามี เดินทางมาจาก จ.สระแก้ว เพื่อความบริสุทธิ์ใจ หลังจากเธอทราบข่าวว่าถูกบรรดาเจ้าบ่าวแจ้งความดำเนินคดี
โดย น.ส.สร้อยเพ็ชร ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับ น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ “น้ำ” หรือ น้ำมตน์ หรือ ภรณ์ แต่ยอมรับว่าเป็นญาติ และเคยมาขอบัตรประชาชนเอาไป โดยอ้างว่า จะเอาไปทำงานบาร์ ส่วนตัวยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.จริยาภรณ์ หรือ น้ำมนต์ จริง แต่ไม่ได้ติดต่อมาแล้วนานกว่า 1 ปี ซึ่งส่วนตัวไม่เคยทราบว่าถูกน้ำ เอาหลักฐานส่วนตัวไปเปิดบัญชีหลอกลวงผู้อื่น และ เมื่อทราบว่ามี การพาดพิงถึงชื่อตัวเองก็รู้สึกตกใจจึงรีบเดินทางพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจทันที
ส่วนบัญชีธนาคารที่นางสาวจริยาภรณ์ หรือ น้ำหลอกผู้เสียหาย ส่วนตัวทราบว่าบัญชีไหน ยืนยันว่าตนเองมีบัญชีเพียงบัญชีเดียว และ ไม่มีเคยมีเงินจำนวนมากโอนเข้ามา ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ส่วนตัวยืนยันว่ามีแค่บัญชีเดียวที่ใช้ธุรกรรมทางการเงิน รวมทั้งไม่รู้ไม่เห็นกับเงินที่โอนเข้าบัญชีจำนวนหลายแสนบาท เพราะเธอเองมีบัญชีธนาคารเดียว และไม่เคยมีเงินจำนวนหลักแสนเข้ามาในบัญชี
สำหรับประวัติของ น.ส.สร้อยเพ็ชร มาลีวัลย์ เป็นชาว จ.เลย ไม่ใช่คนมีฐานะร่ำรวย มีเพียงบ้านหลังเก่าๆๆชั้นเดียว ซึ่งปัจจุบันให้พ่อและแม่อาศัยอยู่ ส่วนปัจจุบันตัวเธอและสามี เดินทางมาทำงานเป็น พนักงานโรงงานไม้ที่จังหวัดสระแก้ว เช่าห้องพักเล็กๆอยู่ด้วยกัน ไม่ได้มีเงินทอง หรือทรัพย์สินใดๆ
ส่วน ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บอกว่านางสาวสร้อยเพ็ชร เป็นญาติห่าง ๆ กับ น.ส.จริยาภรณ์ แต่ต้องรอให้เจ้าหน้าสรุปการสอบปากคำว่า น.ส.สร้อยเพ็ชร เกี่ยวพันด้วยหรือไม่ โดยหาก น.ส.สร้อยเพ็ชร ยอมรับว่านำบัตรเอทีเอ็มให้ น.ส.จริยาภรณ์ ไปใช้ หรือ น.ส.สร้อยเพ็ชร ไปเปิดบัญชีแล้วให้ น.ส.จริยาภรณ์เอาไปใช้เพื่อให้เหยื่อโอนเงิน ก็ย่อมจะมีความผิดทางกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน และเชื่อว่าภายในวันเสาร์นี้น่าจะได้ตัวนางสาวจริยาภรณ์ แน่นอนเพราะเจ้าหน้าที่กระจายกำลังลงทุกพื้นที่
ด้าน นายไพรัช พึ่งสุข หนึ่งในเจ้าบ่าวของน้ำ ไม่เชื่อว่าจะไม่รู้เห็นด้วย และตั้งข้อสงสัยว่า นางสาวสร้อยเพชร น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากเลขที่บัญชีที่เจ้าบ่าวหลายคนโอนให้เป็นเลขบัญชีเดียวกันและมีชื่อสร้อยเพชรเป็นเจ้าของบัญชี
ส่วนฝ่ายบรรดาเจ้าบ่าว ยังแค้นอยู่ จึงกดดันไม่หยุด โดยตัวแทนเจ้าบ่าวทั้งหมด 3 คน คือนายประสาน เทียมแย้ม หรือตู่ เจ้าบ่าวปี 2558 , นายวิพล บัวสุวรรณ หรือรถ เจ้าบ่าวปี 2559, นายไพรัช พึ่งสุข หรือยุ่ง เจ้าบ่างปี 2560 และ น.ส.ขนิษฐา หอมหวล หรือแอน น้องสาวของ วิชิต หอมหวล เจ้าบ่าวปี 2560 เดินทางมาพร้อม ทนายสงกรานต์ พร้อมหนังสือคำร้องขอให้ทางคณะกรรมการ ปปง. โดยมีร้อยตำรวจเอก ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรท สำนักงาน ปปง. เป็นผู้รับเรื่อง เพื่อตรวจสอบบัญชีเงินฝาก และการทำธุรกรรมทางการเงินของนางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ จริยาภรณ์ สีโต และ นางสาวสร้อยเพ็ชร มาลีวัลย์ โดยหลอกให้เจ้าบ่าวและผู้ชายที่เข้ามาเกี่ยวข้องโอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งมีเจตนาต้องการเอาทรัพย์สินมากกว่าการเป็นภรรยาแล้วก็จากไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง