เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และทหาร เร่งติดตามขวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ในจังหวัดลำปาง และภาคเหนือ หลังรวบเครือข่ายได้พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด พบว่าตัวการใหญ่หลบหนีต่างประเทศแต่ใช้เครือข่ายที่มีอยู่ในพื้นที่ พักและจำหน่ายยาบ้า ล่าสุดขยายผลจับตัวการประสานงานนำยาบ้าเข้าพื้นที่ได้เพิ่มอีก 1 คน ฉายา “แจ็ค ทุ่งม่าน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และทหารมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี คุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายประดิษฐ์ สิยานันท์ อายุ 39 ปี // นางจงลักษ์ ทุมนี อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา และนายเฉลิมพล ศรีทิ หรือฉายา “แจ็ค ทุ่งม่าน” อายุ 35 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดลำปาง พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุ 3 กระสอบ รวมกว่า 2 แสน 4 หมื่นเม็ด มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่ 326 หมู่ 8 ตำบลปงแสนทอง อำเภอเมืองลำปาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
นายประดิษฐ์ และ นางจงลักษ์ ให้การว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของ นายเฉลิมพล นำมาฝากไว้จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 2 กระสอบ ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และครั้งสุดท้ายประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2560 อีกจำนวน 2 กระสอบ โดยแต่ละครั้งหลังจากที่ นายเฉลิมพล นำยาบ้ามาฝากแล้วจะกลับมาเอายาบ้าไปจำหน่ายประมาณ 2-3 วันต่อครั้งโดย นายประดิษฐ์ รับค่าจ้างเก็บรักษายาบ้าจำนวน 15,000 บาท และนายแจ็คได้แบ่งยาบ้าให้ ครั้งละประมาณ 20-30 เม็ด เพื่อให้เก็บเอาไว้เสพจนกระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว และจากการจับกุมครั้งนี้ได้ขยายผล ไปที่บ้านของ นายเฉลิมพล ศรีทิ บริเวณ บ้านทุ่งม่านพัฒนา ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง พบตัว นายเฉลิมพล อยู่ภายในบ้าน จึงคุมไว้และทำการสอบสวนเบื้องต้น กระทั่ง นายเฉลิมพล ยอมรับว่า ยาบ้ากว่า 2 แสน 4 หมื่นเม็ดเป็นของตนเอง และเป็นคนนำไปฝาก นายประดิษฐ์ และ นางจงลักษ์ เพื่อรอระบายออกจำหน่าย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัว นายเฉลิมพล มาสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ด้าน พลตำรวจโทพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งลงพื้นในจังหวัดลำปางด้วยตัวเอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำงานกันอย่างเข้มข้นจนสามารถจับกุมเครือข่ายได้ แต่ตัวการใหญ่ที่นำยาบ้าเข้ามาในพื้นที่จังหวัดลำปางและภาคเหนือ คือ นายวิเชียร วงศ์ต่อม ซึ่งขณะนี้หลบหนีหมายจับไปอยู่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังคงมีเครือข่ายที่คอยนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่จับกุมเครือข่ายมาแล้วทั้งหมด 12 ครั้งผู้ต้องหายอมรับสารภาพเป็นเครือข่ายของ นายวิเชียร ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นตัวการใหญ่ในการนำยาบ้าเข้ามาในประเทศไทยและจำหน่ายในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้