เรื่องการทุจริตเงินทอนวัดนี่กระแสแรงมากวิธีการทุจริต ก็คือ เมื่อจะมีการโอนเงินอุดหนุนนี้จากส่วนกลางไปวัด จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไปขอคืนโดยการโอน และจะตกลงกับวัดก่อนว่าต้องการเท่าไหร่ ก็จะทำเรื่องจากส่วนกลางโอนไปให้ จากนั้นก็มีคนตามไปรับคืนจากวัด หรือเรียกว่าเงินทอน ซึ่งมีทั้งการโอนเข้าบัญชีบุคคลและการทอนคืนเป็นเงินสดๆ ก็มีเรายังคงตรวจสอบประเด็นเงินทอน วัดหนึ่งที่อยู่ในรายชื่อของปปง. คือ วัดห้วยตาแกละ จ.เพชรบุรี ที่ใช้เวลาก่อสร้างพระอุโบสถมานานถึง 6 ปี แต่ยังไม่เสร็จ เนื่องจากขาดงบประมาณในการสร้าง โดยทางวัดชี้แจงว่าถ้าหากวัดได้รับเงินจากสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติจริง อุโบสถแห่งนี้คงแล้วเสร็จไปนานแล้วทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ วัดห้วยตะแกละ ตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังเพชรบุรี เมื่อพบว่าวัดนี้มีรายชื่อที่ขอรับเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นเงิน11ล้านบาท
แต่เมื่อเข้าไปสอบถามเจ้าอาวาส กลับได้รับการปฎิเสธไม่ให้ข้อมูลใดๆ แต่พูดวกไปวนมา ไม่ขอชี้แจงใดๆทั้งสิ้น และอ้างว่า ความจริงก็คือความจริง ไม่อยากให้ญาติโยมมีอคติที่ไม่ดีต่อวัด ซึ่งวัดนี้พึ่งบูรณะมาได้ 5 ปีกว่า โดยเงินทั้งหมด มาจากการทำบุญ และทอดกระถินประจำปี ยืนยันว่าไม่มีการรับเงินใดๆทั้งสิ้น และจะไม่ขอพูดเรื่องเงินอีกต่อไป
จากนั้นทีมข่าวจึงเดินสำรวจรอบๆวัด พบ มีอาคารที่พึ่งก่อสร้างเสร็จ เป็นตัวอาคาร 2 ชั้น ไว้เป็นสถานปฎิบัติธรรม และมีอุโบสถที่กำลังก่อสร้างแต่ไม่แล้วเสร็จ
จากการสอบถามชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้วัด ทราบว่า วัดแห่งนี้มีการชี้แจงงบประมาณอย่างโปร่งใส และมีการทำบันทึกรายรับรายจ่าย เพราะตนเองคืออดีตหนึ่งในกรรมการของวัดด้วย
หมู่บ้านที่อยู่ติดกับวัดแห่งนี้ มีชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือน และจะมีการเจ้ามาทำบุญที่วัดแห่งนี้ทุกวันพระ และในตอนเย็นจะมีกิจกรรมสวดมนต์ทำวัดเย็นด้วย ทำให้ชาวบ้านมีความเลื่อมใสและศรัทธาวัดห้วยตะแกละเป็นอย่างมาก
ความจริงอย่างหนึ่งก็คือ วัดห้วยตะแกละได้รับเงินอุดหนุนจากสำงานพระพุทธศานา 11 ล้านบาท แต่เงินในบัญชีที่วัดได้จริงมีเพียงประมาณ 1 ล้านบาท เงินทอนที่มากกว่าเงินจริง ที่วัดได้รับ จึงมีผลให้เห็นสภาพพระอุโบสถที่ค้างคาอยู่เช่นนี้ค่ะ