ปิดเมืองไล่ล่า “ยาการียา บาโง” แกนนำวางระเบิด พบหลักฐานบางส่วน จับได้ 2 คน เคยคุมตัวข้อหาระเบิด
วันนี้ (23 ก.ย.) พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี นำกำลังทั้งสามฝ่ายจำนวน 500 คน พร้อมยุโธปกรณ์ อาวุธปืนครบมือ พร้อมรถฮัมวี่ 10 กว่าคัน รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่เร็ว กระจสยกำลัง เข้าปิดเมือง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ที่มีแหล่งข่าวแจ้งว่า เป็นที่พักพิง ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ที่มีหลักฐานความเคลื่อนไหว กำจัดเสรีของกลุ่มคนร้ายเพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย ร. 4412 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 เสียชีวิต 4 นาย และได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ขณะเดินทางด้วยรถยนต์หุ้มเกราะ เพื่อดูแลความปลอดภัยโรงเรียนบ้านตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุเกิดบนถนนสายเจาะกือแย-สายบุรี ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี เมื่อวานนี้
ในส่วนของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าวว่า กลุ่มนายยาการีนา บาโง กับกลุ่มนายสะมาลี สะนิ แกนนำสั่งการและปฏิบัติการกลุ่มอาร์เคเค ร่วมกันก่อเหตุ ในครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังต้องให้ผู้รับเหมา รับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย เพราะโดยปกติแล้ว ไม่มีใครจะรู้ดีว่า จุดไหนควรจะเป็นจุดฝั่งระเบิด เท่ากับคนทำ ประเด็นนี้จึงจำเป็น ที่จะต้องตรวจสอบทั้งผู้รับเหมาและลูกจ้าง
โดยเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กำลังสามฝ่ายสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 2 คน เป็นคนงานที่ก่อสร้างจุดเกิดเหตุ จำนวน 2 คน มีประวัติเคยถูกควบคุมตัวผุ้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด แต่ปล่อยตัวเพราะไม่มีหลักฐาน เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ทาง พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี จึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายอบสวน นำไปควบคุมตัวแล้วอยู่ระหว่างสอบสวน ที่ สภ.สายบุรี เพื่อขยายผลต่อไป น่าเชื่อว่า ยังมีอีกหลายคน ที่เป็นเครือข่ายที่น่าสงสัย
ส่วนการออกกวาดล้าง พบหลักฐานเพิ่มเติม เป็นจอบ 2 อัน และสายไฟฟ้า และหลักฐานอีกบางส่วน จะนำไปตรวจดีเอ็นเอ ตลอดจนลายนิ้วมือ เพื่อติดตามจับกุมที่เหลือต่อไป ส่วนยุทธการไล่ล่าปิดเมือง ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกว่ามั่นใจต่อสถานการร์ โดยปิดล้อมได้ 10 กว่าจุด
พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก. ปัตตานีเผยว่า การสูญเสียในครั้งนี้สิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ คือ ชีวิตของกำลังพล โดยเฉพาะกำลังพลของหน่วยนี้เป็นหน่วยที่ ได้รับความเชื่อถือ ได้รับความเมตตาความรักจากประชาชน จำนวนมาก โดยเฉพาะกำลังพล 2ใน 4 นายที่เสียชีวิต เป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแล โครงการคนพิการ เมื่อเขามาช่วยงานภารกิจ รักษาความปลอดภัยเสร็จจากตรงนี้เขาก็จะไปเข้างานในโครงการ บำบัด ซึ่งมี ผู้ที่พิการทางสมอง มีปัญหาทางร่างกาย เข้าร่วมโครงการตอนนี้ 200 คน ปัจจุบันเราสูญเสียเขาไปแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เราพยายามทำดี ทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องประชาชนเพื่อลูกหลานของเรา เราไม่ได้มองว่าประชาชนเป็นคนอื้น เรารักเด็กโครงการเหมือนลูกหลานเรา แท้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นเราก็ยังจะเดินหน้าในโครงการต่อไป เนื่องจากโครงการนี้ได้ประโยชน์ ทำให้ประชาชนรัก ทำให้กลุ่มคนร้ายจึงต้องก่อเหตุเพื่อทำลายความเชื่อมั่น แต่เราจะทำต่อไปเพื่อประชาชน เขาทำเรา 1 เราเพิ่มเป้น 10 และเพิ่มเป็นร้อย เราจะปราบด้วยสันติวิธีตามกฏหมายทุกอย่างเพื่อให้สงบสุขกลับคืนมา
ในส่วนของการติดตามคนร้ายเราได้ติดตามมือระเบิดเป็นกรณีพิเศษอยู่แล้ว และมือระเบิดทั้งหมดที่อยู่ในบัญชาเราก็ติดตามอยู่ เราทราบความเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้ และเราก็ป้องกันอยู่ แต่ว่า การก่อเหตุของคนร้ายเมื่อเช้านี้เป็นเหตุสุดวิจัย พฤติกรรมของคนร้ายที่เปลี่ยนไป เราคาดว่าจะได้รับความร่วมมือจาก แนวร่วมในพื้นที่ จะสังเกตุได้ว่าก่อนที่จะมีการก่อเหตุ จะมีการส่งข้อมูลผ่านโลกออนไลน์ก่อนวันถึงสองวัน ครั้งนี้ก็เช่นกันเขามีกาปูพื้นที่โดยการบิดเบือนสถานการณ์ บิดเบือนข้อเท็จจริงเราก็เฝ้าระวังอยู่
สำหรับความคืบหน้าของผู้ได้รับบาดเจ๋บนั้น ประกอบด้วย ส.อ.ธีรวุฒิ ป่านแก้ว อายุ 60 ปี มีบาดแผลถูกสเก็ดระเบิดใบหน้า อาการสาหัสพักรักษษตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี อส.ทพ. ธันยา เอื้องฟ้าไพรวัลย์ อายุ 25 ปี มีบาดแผลถูกสเก้ดระเบิดที่บริเวณใบหน้า และตาขวา อาการสาหัส พักรักษาตัวส่งต่อ ที่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ อ.ส.ทพ. ประหยัด อินทร์แก้ว อายุ 32 ปี มีบาดแผลถูกสเก็ดระเบิดกลางหลัง อาการปลอดภัย พักรักาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี และ อส.ทพ.เอกชัย คำแคว่น อายุ 32 ปี มีบาดแผลถูกสเก็ดระเบิดที่ไหล่ซ้าย อาการปลอดภัย พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสทเด็จพระยุพราชสายบุรี ส่วน อส.ทพ.จักรกฤษ จี่เอ้ย และ น.ส.รอมมือละ สือรี 1มีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว
