เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรรวบ 3 ผู้ต้องหาชาวเวียดนามลักลอบขนนอแรดข้ามชาติ มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างรับจ้างมาจากชาวแองโกลา
เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่ปราบปรามการกระทำผิดทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)ประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหา นาย เยือง บา เหงีย อายุ 27 ปี นางสาวเหงียนถิ ทู จาง อายุ 30 ปี และ นางสาวฟามธิ แทง ฮวย อายุ 56 ปี สัญชาติเวียดนาม หลังได้ลักลอบนำเข้านอแรดผิดกฎหมาย โดยคุมตัวได้พร้อมของกลางเป็น นอแรด ขนาดต่างๆ ที่ถูกตัดเป็นชิ้น จำนวน 15 ชิ้น น้ำหนักรวม7.4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 15 ล้าน บาท และกระเป๋าเดินทางจำนวน 6 ใบ ก่อนที่จะควบคุมตัวมายัง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาฐานนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งซากสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และฐานนำผ่านสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับที่ 3 พ.ศ.2557 มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16 มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่9) พ.ศ.2482 อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส
สำหรับการจับกุมสามผู้ต้องหารายนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามของกรมศุลกากรได้สืบทราบว่าจะมีเที่ยวบินที่เดินทางมาจากแถบแอฟฟิริกา และพบว่ามีผู้โดยสารที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อต่อเครื่องบินไปยังเมืองฮานอย เวียดนาม เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารเป้าหมายทั้ง 3 ราย โดยนำกระเป๋าเข้าเครื่องเอกซเรย์ก็พบกับวัตถุต้องสงสัยคล้ายกับนอแรดจึงเปิดกระเป๋าทั้งสามใบพบว่ามีนอแรดซุกซ่อนมาในกล่องขนมและมีห่อขนมต่างๆจำนวนมากปิดทับหวังตบตาเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริงโดยทั้งสามคนเดินทางไปทำงานที่เมืองแองโกลา และมีชาวแองโกลาได้มาว่าจ้างให้นำกระเป๋าเดินทางทั้งหกใบเดินทางมายังประเทศเวียดนามโดยจะได้ค่าจ้างต่อคนคิดเป็นเงินไทย คนละ 32,000 บาท จึงตกลงรับงานดังกล่าวและเดินทางจากต้นทางมายังประเทศไทยเพื่อต่อเครื่องไปยังเมืองฮานอยจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวเสียก่อน