นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ชาวบ้านจังหวัดอ่างทองได้ร่วมกันดึงเรือเร็วที่ถูกกระแสพัดจนพลิกคว่ำและถูกกระแสน้ำพัดมาไกลกว่า 10 กิโลเมตร โดยชาวบ้านต้องช่วยกันออกแรงดึงกันพักใหญ่กว่าจะสามารถนำเรือข้นฝั่งมาได้
ที่เห็นลอยๆอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาท่ามกลางกระน้ำที่ไหลอย่างรุนแรง นี่ไม่ใช่คนหรืออะไรแต่เป็นเรือเร็วขนาดใหญ่ของวัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ซึ่งถูกกระแสน้ำเจ้าพระยาพัดจนเรือที่ผูกไว้กับแพหน้าวัดพลิกคว่ำจนท้องทะลุ ก่อนจมลงอย่างรวดเร็วและไหลมาตามน้ำ โดยมีเณรสองรูปและคนงานของวัดได้วิ่งตามมาตามลำน้ำเจ้าพระยาพร้อมตะโกนให้คนช่วย ซึ่งแม้จะพยายามกระโดดลงไปเพื่อใช้เชือกผูกดึงไว้แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้ไม่สามารถหยุดเรือที่มีขนาดใหญ่ได้ ต้องไปล่อยให้ไหลไปกว่า 10 กิโลเมตร
ด้านนายฉัตรชัย เกิดคง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลบ้านแห อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ทราบข่าวขณะเฝ้าเครื่องสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ว่าเรือของวัดต้นสนหลุดลอยออกมาใกล้ถึงจุดที่กำลังทำแนวกั้นน้ำอยู่ จึงนำเรือติดเครื่องออกไปพยายามยื้อเรือเร็วเอาไว้ แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำมีความรุนแรงประกอบกับเรือมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากทำให้ทั้งหมดลอยคว้างอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่จะมีกลุ่มชาวบ้านนำเจ็ตสกีออกมาช่วย โดยพยายามดึงเรือเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งสามารถดึงเข้าฝั่งได้โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนำเรือเข้าฝั่งได้ก็ต้องขอแรงชาวบ้านหมู่ที่ 6 ตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ที่กำลังกรอกทรายกั้นน้ำอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระดมกำลังกว่า 30 คนช่วยกันใช้เชือกดึงขึ้นฝั่ง และด้วยความร่วมมือร่วมใจก็สามารถกู้เรือลำดังกล่าวขึ้นมาได้และประสานงานให้ทางวัดนำรถมาขนย้ายเรือดังกล่าวกลับไปซ่อมแซมเนื่องจากเสียหายหลายจุด
โดยทางสามเณร 2 รูปที่พยายามติดตามเรือมาได้ขอบใจชาวบ้านที่ช่วยเหลือและให้ศีลให้พรชาวบ้านอย่างยกใหญ่เนื่องจากเรือลำนี้มีมูลค่านับแสนบาท หากไม่ได้ชาวบ้านช่วยก็ไม่รู้จะกู้เรืออย่างไร