นาทีนี้หากเอ่ยถึง “มนต์กฤษณะกาลี” สำหรับคนที่ดูละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โอกาสนี้ทีมข่าวไบรท์ทีวีออนไลน์ขอรวบรวมมนต์ดำ คาถาต่างๆที่เคยปรากฎในละครไทย มาย้อนให้ได้ดูกันว่ามีอะไรบ้าง และแต่ละคาถานั้น มีอำนาจอย่างไร และมีในโลกแห่งความเป็นจริงมีใครเคยใช้คาถาเหล่านั้นไหม
มนต์กฤษณะกาลี (บุพเพสันนิวาส)
เป็นมนต์คาถาที่ใช้สาบแช่งคนที่ทำชั่ว ให้ได้รับผลกรรมที่ทำไว้ โดยอำนาจของมนต์นี้จะทำให้ผู้ที่ทำชั่วนั้น กลายเป็นบ้า หรือ จะต้องตายตกไปตามๆกัน ซึ่งในเรื่องบุพเพสันนิวาส การะเกดเป็นผู้บงการฆ่าจันทร์วาด แต่ไม่สำเร็จ สุดท้าย แดง บ่าวของจันทร์วาดต้องมาตายไป และสุดท้ายมนต์กฤษณะกาลี ก็ย้อนกลับมาทำร้ายให้การะเกดต้องตายไป
หากย้อนไปดูข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว มนต์กฤษณะกาลี นั้นไม่มีบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะได้แรงบันดาลในมาจากมนต์กฤษณะ ตามความเชื่อของพรามณ์ ฮินดู นั่นเอง
คาถาผีอีแพง (บ่วง)
ละครเรื่อง บ่วง เป็นอีกเรื่องที่ตัวละครในเรื่อง นั่นก็คือ ผีอีแพง ที่ใช้คาถานี้ เพื่อมัดใจชายที่หมายปอง หากใครเคยติดตามดูเรื่องนี้ คงจะจำคาถานี้ได้ “โอมให้ช้างลืมโขลง โอมให้โขลงลืมไพร โอมให้มันร้อนเร่า โอมให้มันรักใคร่ โอมให้มันอยู่มิได้”
คาถานี้ครอบงำคุณพระให้แพงได้สมหวังก็จริง แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลานึง หลังจากนั้นคุณพระเริ่มทรุดป่วย และเสียชีวิตในที่สุด และสุดท้ายมนต์ดำนี้ก็ย้อนกลับมาทำร้ายผีอีแพงจนเสียสติ และถูกลงโทษ ทรมานด้วยการเฆี่ยนตี จนเสียชีวิตในที่สุด
https://youtu.be/f8RpR_FN_H0?t=2418
คาถาแม่รำพึง (บ่วงบาป)
ละครเรื่องบ่วงบาป กับคาถาสะกดผัว ที่ แม่รำพึง (พลอย เฌอมาลย์) ใช้เพื่อให้ ขุนพิทักษ์ (ปอ ทฤษฎี) นั้นลุ่มหลง โดยใช้คาถาว่า “ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู”
หงส์ร่อน มังกรรำ(รอยไหม)
เป็นหนึ่งในคาถายอดนิยมสำหรับละครไทย อย่างเช่นเรื่อง รอยไหม “หม่อมบัวเงิน” เลือกที่จะใช้เสน่ห์ยาแฝดให้เจ้าสิริวัฒนา หันกลับมารักเธอ ด้วยการร่ายคาถาที่ว่า “หงส์ร่อนมังกรรำ กูจะทำให้ผัวรัก กูจะทำให้ผัวหลง”
ตามความเชื่อคนไทยโบราณ เสน่ห์ยาแฝดบทนี้ มีการสืบทอดปฏิบัติกันมา ผู้หญิงจะทำโดยยืนคร่อมหม้อดินที่หุงข้าว แล้วให้ไอร้อนจากหม้อขึ้นมากระทบที่ของลับ จนเหงื่อบริเวณนั้นหยดกลับลงไปในหม้อหุงข้าว แล้วนำไปให้ผู้ชายกิน เชื่อว่าจะทำให้ผู้ชายรักและหลง
คาถาเรียกผัว (บ่วงอธิฏฐาน)
ละครเรื่อง “บ่วงอธิฏฐาน” บุษกร (หยาดทิพย์ ราชปาล) ใช้วิชามาร “ทำเสน่ห์” จน (องค์อริยะ หมาก-ปริญ) หลงหัวปักหัวปํา ถึงขั้นลืมเมีย ซึ่งบทนี้ มีคาถาว่า “โอม ให้นกลืมคอน ให้พาดกลอนลืมป่า ให้ผีพรายจงมานำทางผัวกู ให้ต้องร้อนเร่า ให้ต้องหลงใหล ให้ต้องรักใคร่ หัวปักหัวปํา”
https://youtu.be/bsYZc8e7uGY?t=238
คาถาสะกดผัว (กำไลมาศ)
คาถาที่ ล้อม (หญิง รฐา) ใช้สะกดท่านชาย(เต้ย พงศกร) เพื่อให้หลงรัก และรับ ล้อม ให้มาเป็นเมียแทนที่หญิงรำภา ที่แม่ได้หมั้นหมายเอาไว้
“โอม…สิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี
ศรีเจ้างามคือฟ้าหน้ากูงาม
ให้แขนงามดังนางบุษบา
ดาวตาสุกใสดังจันทร์ฉาย
ชายเห็นเป็นทนไม่ได้ ใจรำพึงถึงเพียงกู
กินข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน
ให้สะอื้นถึงกูทุกทิวาและราตรี”
https://youtu.be/ymyFTsMguLs?t=765
รากราคะ (แรมพิศวาส)
ในยุคนึงที่ คนทั่วบ้านทั่วเมือง พูดถึง รากราคะ สืบเนื่องมาจากละครดัง แรมพิศวาส ที่แม่ผกา” รับบทโดย “หน่อย บุษกร” ได้ทำพิธีบูชาพระจันทร์ในคืนเดือนแรม แล้วเอาว่านต้มยาให้สามีกิน เพื่อให้ผัวรักผัวหลง ความสำเร็จของฉากนี้ ถึงกับทำให้คนดู เชื่อว่า “รากราคะ” มีอยู่จริงและมีสรรพคุณแบบในละคร และหาออกไปหาซื้อกันเพื่อจะมามัดใจชายที่หมายปอง
สำหรับรากราคะนั้น เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น และมีผู้ที่พยายามจะเชื่อมโยงข้อมูลว่ารากราคะ ก็คือ ว่านดอกทอง ที่มีสรรพคุณช่วยในเรื่องของความรู้สึกทางเพศสำหรับเพศหญิง
คาถามหาเสน่ห์ (ลิขิตริษยา)
ซ่อนกลิ่น ต้องการเป็นเมียของ หลวงเดชบริรักษ์ ทั้งๆที่คุณหลวงมีเมียอยู่แล้ว 3 คน เธอจึงใช้คาถาที่ได้มาจากหมอผี ร่ายมนต์ใส่หลวงเดช จนได้เขามาครอบครอง คาถาที่ว่านั้นคือ “นะเมตตา โม เห็นหน้ารักสนิท พุธจับจิต ธามิให้กำจัด ยะกระหวัดจิตหลวงเดช ละอย่าละ ชีวิตัง ยาวิพพานัง สะระยัง คัจฉามิ”
ซึ่งคาถาที่ว่านี้ หากไปค้นดูในอินเทอร์เน็ต ก็จะเป็นคาถาที่ชื่อว่า “พระคาถามหาเสน่ห์ คาถารักใคร่-หลงรัก” ใช้สวดเมื่อต้องการให้คนทั่วไปรัก นับว่าเป็นคาถาที่มีพุทธคุณในด้านให้คนเมตตาเป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น
แหล่งข้อมูล Ch3, Ch7
