ฟิล์ม รัฐภูมิ เล่าประสบการณ์แมว 9 ชีวิต เผย เกือบได้เล่นหนังกับทางฮอลลีวูด

ถูกยกให้เป็นแมว 9 ชีวิตในวงการบันเทิง หลังพระเอกดัง ฟิล์ม รัฐภูมิ เจอมรสุมรุมเร้า จนเข้าใจสัจจะธรรมชีวิต มีขึ้น ย่อมมีลง เผยชีวิตตนจากเป็นตัวประกอบกลายมาได้เป็นซุปตาร์มีรายได้นับไม่ถ้วน แต่ในวันที่อยู่ในขาลงก็ต้องอยู่ให้ได้ หากคิดว่าตัวเองเป็นซุปตาร์ก็มีแต่รอตาย เพราะความไม่เคยท้อและถอยของ ฟิล์ม ที่มาเล่าประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาแบบทุกซอกทุกมุมในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ช่วงที่ไปอยู่ต่างแดนเกือบจะได้เป็นดาราฮอลลีวูดแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ไทยเจ้าตัวก็ได้สานฝันอีกครั้งสร้างวงดนตรีที่ตัวเองรักขึ้นมาใหม่ในชื่อวง The Circus และปล่อยเพลง โอ้วแม่สาวน้อย ออกมาเป็นที่เรียบร้อย

ถาม หายจากวงการเพลงไปนานมาก 5 ปี แต่ดูโตขึ้น ฟิล์ม ดูนิ่งขึ้นเกี่ยวไหมเพราะว่าเราเจออะไรมาเยอะในช่วงชีวิตที่ผ่านมา

ฟิล์ม รัฐภูมิ : จริงๆอาจจะเกี่ยวเพราะโตตามวัยด้วย แล้วบอกกับว่าประสบการณ์ต่างๆหนาแน่นขึ้นตามวัย

ถาม ช่วงที่มีข่าวเยอะๆตอนนั้น เหมือนกับสูงสุดคืนสู่สามัญเลย เพราะต้องบอกว่าตอนนั้น ฟิล์ม เป็นหนึ่งในตัวท็อปเลยนะ รับมือยังไงบ้างในเหตุการณ์ครั้งนั้น

ฟิล์ม รัฐภูมิ : สำหรับผมไม่ได้ผ่านอะไรมาก และยากเลยเพราะทางคุณพ่อ คุณแม่ ครอบครัว ผู้มีพระคุณหรือว่าเฮียฮ้อ เขาก็สอนให้เราเป็นคนธรรมดาอยู่แล้ว ไม่เคยที่จะไปหลงระเริงอะไรเลย แล้วอยู่วันหนึ่งเราไม่มีงานทำเลย เพราะผมถูกต้นสังกัดบอกให้ต้นสังกัดของผมไม่ให้งาน 2  ปี พอกลับมาเป็นคนปกติไม่มีงานทำสองปี คิดถึงแฟนๆเท่านั้นเองเพราะเคยเจอทุกวัน ร้องเพลงทุกวันเพราะเช้าละคร เย็นคอนเสิร์ตเป็นแบบนี้เกือบ 10 ปี แต่พอมาเป็นแบบนี้เราคิดถึงเขามากกว่า แต่มันก็ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ทำให้เราค้นพบอะไรบางอย่างว่าเราทำแบบนี้ก็ได้ ช่วงที่ผมหายไปตอนนั้นก็ไปอยู่ต่างประเทศส่วนใหญ่ ที่ไปตอนนั้นด้วยความที่ผมไปบวชมาแล้วไม่มีผม แล้วถูกพักงานด้วย จะไปแอบรับงานก็ไม่ดี เฮียฮ้อ เลยบอกว่า ฟิล์ม ไปต่างประเทศไหมไปเรียนไหม เราก็โอเค เพราะเป็นอีกหนึ่งความฝันของเราด้วยที่เราอยากไปอยู่ต่างประเทศอยู่แล้ว เลยได้ไปอยู่พอไปอยู่แล้วก็คำนวณว่าเราจะอยู่กันยังไงเพราะสองปีผมเอาแม่ไปด้วยเพราะ แม่ กับ ผมอยู่ด้วยกันตลอด เพราะปกติที่ผ่านมาผมจะเป็นเสาหลักของครอบครัว แล้วสองปีไม่มีเงินที่เราหามาได้เราต้องใช้เงินเก่าบวกกับเราต้องไปอยู่ เราเลยต้องจัดการเรื่องเงินให้ดี ตอนนั้นก็ไปสมัครเป็นคนล้างจานในร้านอาหารไทยครับ คือ หกเดือนแรกผมล้างจานอย่างเดียวเพราะว่ายังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง จำเมนูไม่ได้ แต่พอเราได้ใช้เวลาเรียนรู้เราก็ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นพนักงานบริการ ตอนนั้นคนที่เห็นเราก็เริ่มตกใจ ร้านก็ขายดีมากขึ้นแฟนๆจะคิดถึงเรา มาหาเราแล้วก็ถ่ายรูป ทำให้เราได้เรียนรู้ว่ามันเป็นแบบนี้ เงินมันหายากมากเลยนะ คือ เมื่อก่อนตอนเป็นศิลปินไปยืนไม่นานก็ได้เป็นแสนๆแล้ว เราก็รู้สึกว่าต้องทำธุรกิจต่อยอดเราต้องทำนั้นทำนี่ต่อยอดนะ แล้วถ้ามันเกิดวิกฤตแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตผมจะได้ไม่ต้องไปกลัวอะไรที่คนข้างหลังจะลำบาก เพราะผมดันวางแผนชีวิตที่ผิดไปตอนแรกตอนที่เราเข้าวงการใหม่ให้ครอบครัวเราหยุดงานเดี๋ยวเลี้ยงเอง เพราะทั้งชีวิตที่เราเกิดมา เราเห็นแต่น้ำตาของพวกเขาเพราะไม่มีเงิน ทำให้เรารู้สึกว่าเราเห็นพวกเขาลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว พอเราทำงานแล้วมีเงินเราเลยบอกให้ทุกคนหยุดไม่ต้องทำอะไรแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ เขาแก่ เขาเบื่อ เพราะไม่ได้ทำอะไร แต่พอเราเจอช่วงวิกฤตในชีวิตเราแทบประคองพวกเขาแทบไม่ไหว เมื่อผ่านตอนนั้นมาได้ ผมเลยเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนนี้ก็ให้เขาปลูกผัก หากิจกรรมทำกัน

ถาม ตอนนั้นเรามีความรู้สึกอึดอัดลังเลกับการที่เราต้องลงไปล้างจาน หรือ เสิร์ฟ อาหารบ้างไหม

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ไม่รู้สึกเลยครับ เพราะตอนที่อยู่ที่บ้านผมเป็นคนที่ล้างจานอยู่แล้ว แต่ผมจะรู้สึกอึดอัดกับคนที่มาดูถูกมากกว่าเพราะในบางครั้งมีผู้ชายมากับผู้หญิง แล้วผู้หญิงมากรี๊ดเราแล้วเราเสิร์ฟเขาก็จะพูดจากับเราไม่ดี อย่างเวลาผมไปร้องเพลงกลางคืน ตอนเสาร์ อาทิตย์ (เพราะตอนนั้นเราต้องหารายได้ทุกช่องทางเท่าที่ทำได้)  ตอนเช้าผมเรียนหนังสือ ตอนเย็นมาเสิร์ฟ ตอนกลางคืนไปร้องเพลง ก็ร้องเพลงไทยทั่วๆไป และบางทีผมก็ไปยืนขายตั๋วฟุตบอล เพราะร้านอาหารไทยที่ผมทำเขาอยู่ติดกับสนามฟุตบอลแล้วเขาก็ได้สปอนเซอร์ ได้บัตรฟรีมา (เขาบอกว่าเขาดูจนเบื่อแล้ว) ผมเลยขอบัตรเขามาแล้วเอาไปขายต่อ แล้วบางทีคนไทยเขาไม่เข้าใจไงครับว่าซุปตาร์ทำไมมายืนขายตั๋ว แต่เพราะความอยู่รอดของผม ผมเลยไปยืนขายและสิ่งที่ผมได้จากการขายบัตรที่สุด คือ จากคนไทยเพราะเวลาเขาไปแล้วเขาไม่มีตั๋ว ตอนไปยืนขายก็มีคนดูถูกเรานะครับ ว่าทำไมมายืนขายแบบนี้

ถาม พอมีคนดูถูกที่เราไปยืนขายตั๋ว เรามีความลังเลไหมที่จะเลิกขาย

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ไม่มีความลังเลนะครับ เพราะแม่ผมมีความสามารถทำคิ้ว ทำผม เขายังนั่งรถเมล์ไปทำคิ้วให้คนไทยบ้าง ไปอยู่กับแวดวงคนไทยบ้าง แล้วผมเห็นแม่ผมซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลย แต่ต้องนั่งรถเมล์ไป พอผมเห็นภาพแบบนั้นผมเลยไม่รู้สึกเหนื่อยด้วยซ้ำในการใช้ชีวิตอยู่

ถาม แล้วเคยคิดไหมว่าเราจะเป็น ฟิล์ม รัฐภูมิ แบบนี้ถึงเมื่อไหร่ และเราจะได้กลับไปเป็น ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่แค่ยกมือขึ้นคนก็กรี๊ดแล้ว

ฟิล์ม รัฐภูมิ : มันมีสิ่งหนึ่งถ้าเกิดว่าย้อนกลับไปได้ผมจะกลับไปทำ และ ไม่เคยเล่าที่ไหนด้วยผมไปแคส แล้วผมไปติดหนังโฆษณาหนังใหญ่ของฮอลลีวู้ด เรื่อง โรนินแฟลก ตอนนั้นเขาหาคนที่หน้าจีน ญี่ปุ่น ไปเป็น 1 ใน 47 โรนินแฟลกพอดี พี่สาวผมเป็นคนเห็นป้ายประกาศนี้เขาบอกผมว่าไปแคส เราก็จะบ้าเหรอ แต่ใจจริงคือ ไปอยู่แล้วเพราะเราไม่กลัวอยู่แล้วพวกแบบนี้เลย พอไปแคสเขาก็ให้เราขี่ม้า ร้องไห้ เราทำได้ทุกอย่างจนเขารู้สึกว่าทำไมเราเก่งแบบนี้เพราะเขาไม่รู้ว่าเราเป็นใคร แต่ในใจเราตอนนั้นไม่ได้หรอก เพราะภาษาเราก็ไม่ได้ พอเรากลับถึงบ้านก็มีอีเมล์มาทันทีเลยว่า โอเคนะ แล้วมาเป็นแพลนเลยว่า 4 ปีนี้ทำอะไรบ้าง คือ เรียนการแสดง 2 ปี ยิงธนูฟันดาบ 2 ปี ถ่ายอีก 2 ปี แต่เขาจะมาตารางมาให้ ปีแรกได้กี่บาท ปีที่สองได้กี่บาท ปีสามได้กี่บาท และปีสุดท้ายได้กี่บาท ทุกปีที่เราเรียน ฝึกคือ เราได้เงิน 4 ปี เป็นเงินสองล้านบาท ก็ตกเดือนละ 3-4 หมื่นบาท ใช้เวลาหนึ่งวัน 5-6 ชั่วโมง แต่มันก็ไม่ใช่ 3-4 หมื่นไปทุกเดือนนะครับ แต่มันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ว่าผมมาวิเคราะห์แล้วก็โทรปรึกษาเฮีย ว่าเอาไงดี นี่คือฝันของเลยนะ ผมอยากคว้าสิ่งนี้มา เลยปรึกษากันไปมาเลยตกลงว่าไม่รับ เพราะว่าผมเลี้ยงชีวิตผมไม่ได้ แล้วผมยังมี คนที่ผมยังต้องดูแลอยู่ แล้วพอผมกลับมาประเทศไทย มีงานทำ แล้วผมมองย้อนกลับไปผมก็อยากทำตรงนั้นอยู่ แต่โอกาสนั้นมันไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว

ถาม ถึงจะห่างหายจากวงการบันเทิงไปแต่สิ่งหนึ่งเลยที่ฟิล์ม รัฐภูมิ ไม่เปลี่ยนไปเลยคือ ความหล่อ คงเหมือนเดิมไม่เคยได้ทำศัลยกรรมเพราะเป็นโรคกลัวเข็ม

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ก็ต้องบอกว่าไม่มีผ่าตัดไม่มีอะไรเลยเพราะแม่ปั้นมาทรงนี้  คือ ผมไม่ได้กลัวเข็มแต่ผมกลัวเจ็บ เพราะผมเคยไปโบท็อกซ์เมื่อนานๆมากๆแล้ว คือ ตอนนั้นผมฉีดแล้วยิ้มไม่ได้ แล้วเจ็บผมเลยรู้สึกว่าทำไมมันน่ากลัวแบบนี้เลยไม่ทำ

ถาม กลัวขนาดนี้ ฟิล์ม ปักหมุดเลยไหมว่าชีวิตนี้จะไม่ยุ่งกับการทำศัลยกรรมเลย

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ไม่ขนาดนั้นนะครับ ผมไม่ได้ต่อต้าน แต่เราไม่จำเป็นต้องทำ แล้วที่ผ่านมาคือ ผมเล่นแต่ละครตลกไม่จำเป็นต้องหล่ออะไร แต่ละครเรื่องล่าสุดที่มาเล่นกับอมรินทร์ เรื่องตะวันตกดิน ผมก็ช็อคมาก เพราะผมเพิ่งออกมาเป็นอิสระ เพิ่งออกมาจากบ้านเรา เพิ่งมารับละครเรื่องแรกเลย แล้วผมมาเจอกับ พี่ฉอด ครั้งแรกที่เจอกันเลยผมถ่ายภาพนิ่งอยู่ แล้วพี่ฉอด เรียก ฟิล์ม มานี่หน่อยผมก็เดินมา (พี่ฉอดพูดว่าพี่ว่าต้องฉีดนะ เหนียงต้องเก็บ) ผมเลยถามว่าขนาดนั้นเลยเหรอครับ เพราะในบทมีคนรวย มีผู้หญิง ต้องหล่อ เลยเพิ่งไปฉีดมา

ถาม ทำไมถึงพูดถึงแต่ละครตลก ไม่ชอบดราม่า

ฟิล์ม รัฐภูมิ : เพราะผมเคยเล่นแล้วมันเครียดเกินไปพอกลับไปที่บ้านเราต้องไปจมอยู่กับความทุกข์ อ่านบทแล้วแบบว่าจะเล่นยังไง ต้องทำการบ้านแบบไหน บทก็ต้องจำให้เป๊ะ !! ที่ผ่านมาเราเจอแบบนั้น ไม่ใช่บทละครไม่ดี แต่เราไม่อยากเล่นแบบนั้น แต่เราขอเล่นแบบ ตลกๆนะ

ถาม แต่ทำไมรับเรื่อง ตะวันตกดิน เพราะเรื่องนี้ดารม่าแน่ๆ

ฟิล์ม รัฐภูมิ : เพราะผมชอบละครเรื่องนี้ พออ่านบทแล้วผมรู้สึกว่า เป็นละครเรื่องแรกในชีวิตของผมเลยนะที่รู้สึกเล่นเป็น มนุษย์ เรื่องนี้ คือ มีการอิจฉา ริษยา พยายามให้ได้มา หลงระเริง คือมันคบหมดตามชื่อเลย ตะวันตกดิน คือ มีขึ้นสว่างสดใส แล้วก็ตกมืดไม่มีใครสนใจ เป็นแรกเลยที่ผมรู้สึกว่าน่าเล่นมากๆ เป็นนักร้องเราก็รอเพลงดีๆเหมือนกัน และ เราออกมาเป็นนักแสดงอิสระเราก็อยากได้บทดีๆเหมือนกัน ต้องขอบคุณ พี่ฉอด มากๆนะครับ

ถาม ส่วนอีกเรื่องในส่วนตัวของ ฟิล์ม ที่ใครที่ตามติดในอินสตาแกรมส่วนตัวจะเห็นว่า ฟิล์ม สะสมรถเยอะมาก

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ปกติชอบรถคลาสสิคอยู่แล้ว แล้วเก็บสะสมมาโดยตลอดอยู่แล้ว ซึ่งคนมารู้ว่าเราวสะสมมากๆช่วงโควิด เพราะตอนนั้นคือ เราทำอะไรกันไม่ได้ แล้วเราเปิดบริษัทโปรดักชั่น ผมเลยไลฟ์คุยเรื่องรถที่ผมสะสมปรากฏว่าคนชอบทำให้มีรายได้กลับมา แล้วได้ทำ ได้พูดในสิ่งที่เราชอบด้วย แล้วพอรายการออกไปคือ คนมาขอซื้อรถจากผมเยอะมาก ตอนนี้เลยกลายเป็นธุรกิจขายรถคลาสสิคโดยตรง คือ เอารถเก่าที่แทบจะพังแล้วนำกลับมาทำใหม่ให้ใช้ได้เหมือนเดิม

ถาม เรื่องรถประสบความสำเร็จไปแล้ว แล้วเรื่องความรักเป็นยังไงบ้าง

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ผมไม่ค่อยมองเรื่องนี้ครับ คือ ไม่ใช่ไม่มีเข้ามาเป็นเราไม่ได้สนใจมากกว่า เพราะผมมองว่าอยากให้น้องๆแฟนๆที่ดูผมเป็นแบบอย่าง คือ ได้เห็นถึงการทำงาน ดูแลคุณพ่อคุณแม่ ส่วนเรื่องมุมความรักของผมไม่ใช่ไม่อยากให้มองนะ แต่มันไม่มีอะไรน่ามองมากกว่า เพราะเดี๋ยวรักๆเลิกๆ มันเลยไม่รู้จะมองมุมไหน ในวันที่มีความสุขใครๆก็รู้สึกดี ใครไม่อยากมีโมเมนต์จับมือ กอดแฟน ลงโซเชียลบ้างแต่ถ้าเลิกกันก็มารุมด่ากันอีก ผมเลยรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นเลย แต่สิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนเห็นผมคือ สู้ชีวิตทำงาน ไม่เคยท้อ ส่วนเรื่องความรักผมมองว่ามันไม่จำเป็นเลย เราไม่เห็นว่าเราจะเอามุมนี้ไปให้ใครมอง

ถาม แปลว่าถ้า ฟิล์ม มีแฟนคือ จะไม่เปิดเผยแล้ว

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ใช่ครับ คือ ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เราจะหยิบมาพูดเอาให้มันแน่นอนก่อนดีกว่า แต่ในชีวิตจริงผมให้เกียรติเขา ผมก็รักเขา แล้วผมก็ดูแลเขาดี

ถาม ตอนนี้มีใครมาดูแลหัวใจไหม

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ตอนนี้ผมก็ยังว่างๆอยู่ครับ

ถาม แล้วเคยมอง อนาคตตัวเองไหมว่าจะเป็น สามี เป็นคุณพ่อ

ฟิล์ม รัฐภูมิ : ผมคิดมาตลอดอยู่แล้วครับ อยากมีมาตบอดอยู่แล้ว เพราะผมเคยเลี้ยงเด็ก ผมว่าคือชีวิตผม ผมอยากจะเติมเต็มอะไรบางอย่างที่ผมไม่มีในวัยเด็กก็จะใส่ไปให้ลูกในอนาคตถ้ามีนะครับ

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

เหล่า K-pop บุกชาร์ตเพลง Circle Chart ประจำรายเดือน-รายสัปดาห์

คนฮอตของเดือนเมษายนสุดร้อนแรงนี้! จะมาเปิดเผยอันดับชาร์ตรายเดือนและรายสัปดาห์ล่าสุด! ของชาร์ต Circle Chart สุดโหดเกาหลีใต้

“วอนฮี ILLIT” พรีเซ็นเตอร์เครื่องดื่มสุดฮิต ที่พร้อมมาทำให้ซัมเมอร์จี๊ดจ๊าด!

เอาแล้วไงสดใสจนได้งานเข้ามารัว ๆ สำหรับสาวสวย “วอนฮี ILLIT” ที่ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เครื่องดื่มสุดฮิต “Pocari Sweat”

กัมพูชา เคลมอีก! ลาบูบู้ LABUBU แท้จริงมาจากตำนานของพี่เขา

ชาวเน็ตกัมพูชา ไม่ตกกระแส! แห่ตามเคลม “ลาบูบู้ LABUBU” มาจากรูปแกะสลักปีศาจ “หน้ากาล” วัฒนธรรมของกัมพูชา ไม่เชื่อ! เจอได้ตามทางเข้าวัด

สคบ.เตือนภัย ‘พัดลมคล้องคอ’ อันตราย ใช้ไปนาน ๆ เสี่ยงโรคมะเร็ง

หยุดใช้ดีที่สุด! สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตือน ‘พัดลมคล้องคอ’ มีตะกั่วเข้มข้นเป็นอันตรายต่อผิวหนังเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง

ครั้งนี้ไม่ยอม! เจนนี่ รัชนก ถูกคนใกล้ตัวในคราบโจร ขโมยเงินครึ่งล้าน

ไม่ยอม! เจนนี่ รัชนก ถูกคนใกล้ตัวในคราบโจร ขโมยเงินในบ้านจำนวนครึ่งล้าน ลั่น ถ้ายังไม่คืนรู้เรื่องแน่

ป่วยนับสิบ! คนสุพรรณ ติดเชื้อไวรัสโรต้า หลังร่วมปาร์ตี้โฟมสงกรานต์

ปาร์ตี้โฟมสงกรานต์ เป็นเหตุ! ทำคนสุพรรณ ติดเชื้อไวรัสโรต้า หามตัวส่ง รพ. กว่า 50 ชีวิต พบมีอาการ มีไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสีย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า