วันนี้เราได้มีโอกาสอัพเดทชีวิตกับ ปู Black Head หรือนาย อานนท์ สายแสงจันทร์ นักร้องนักดนตรีแนวร็อคที่เคยโด่งดังที่สุดในช่วงปี พ.ศ. 2538 ถึงปี พ.ศ. 2550 โดยมีเพลงที่เป็นอมตะตลอดกาล ที่ยังร้องกันได้จนถึงปัจจุบัน กับท่อนฮิตกินใจอย่าง “ จะขอยืนยัน ยืนยันที่จะรักเธอต่อไป เจ็บช้ำเป็นตายเป็นไป ยังไงไม่หวั่นเลย จะคอยดูแลและทำให้รักเราเป็นเหมือนเคย วันที่ล่วงเลย ไม่เคยเปลี่ยนฉัน..ไป ” ซึ่งเพลง ยืนยัน ได้ทำให้วง Black Head เป็นที่รู้จักอย่างมากในปีนั้น ขึ้นชาร์จอันดับ 1 ของทุกคลื่นสถานี และต่อมา วงบอดี้แสลม ซึ่งในขณะนั้นได้ใช้ชื่อว่า ละอ่อน ได้นำเอาเพลง ยืนยัน ใช้ในประกวด ฮอตเวฟ มิวสิค อวอร์ด ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2539) จนสร้างวงร็อคคุณภาพอย่าง บอดี้แสลม ในเวลาต่อมา
นอกจากเพลง ยืนยัน ยังมีเพลงดังระดับตำนาน ที่แม้กระทั่ง ร้านดื่มปัจจุบันยังร้องกันแทบทุกคืน อย่างเพลง เพียงกระซิบ และอีกหลายๆเพลง วง Black Head ได้กวาดรางวัลทางดนตรีใหญ่ๆจากหลายสถาบัน อย่างเวทีสีสัน อวอร์ด เป็นต้น เรียกว่าทำเพลงอะไรออกมา ก็ฮิต ติดหู ขึ้นท็อปชาร์ทแทบทุกอัลบั้ม Black Head จึงเป็นวงดนตรีร็อคต้นแบบ ที่เป็น Idol ให้วงร็อครุ่นต่อๆไปจนถึงปัจจบัน
นอกเหนือจากงานเพลงแล้ว ปู ยังมีโอกาสได้เล่นละคร ภาพยนตร์ อีกหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งเรื่องที่สร้างเซอร์ไพรส์แฟนเพลง มากที่สุด ก็เห็นจะเป็นการรับบทเป็น สาวประเภทสอง ในภาพยนตร์เรื่อง App Love สร้างเสียงฮือฮาให้แฟนเพลงได้ตกอกตกใจ ว่ามีพฤติกรรมเบียงเบนหรือเปล่า ซึ่งปูกล่าวว่า นั่นเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น
ปัจจุบัน วง Black Head ยังมีผลงานใหม่ๆออกมาสู่ผู้ฟังบ้าง มีคอนเสิร์ต และการโชว์ตัวร้องเพลงอยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่ง… โควิด-19 วิกฤตกาลที่หยุดชงักเศรษฐกิจทั่วโลกในทันที ไม่พ้นกลุ่มศิลปิน นักร้อง ต่างโดนแคนเซิลงานตามๆกัน วันนี้มีโอกาสได้เจอ ปู Black Head มาดูกันว่า ช่วงวิกฤติโควิดนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้างกับ ปู Black Head บ้าง
“ถ้าพูดถึงเรื่องร่างกาย และ สภาวะจิตใจเนี่ย ต้องบอกเลยว่าย่ำแย่ที่สุด ตลอดช่วง 30 ปี ที่ทำงานสายนี้มา”
ประโยคแรกของบทสนทนา เริ่มต้นได้หนักหน่วงมาก ทำให้ทีมงานใคร่รู้ในทันทีเลยว่า ผู้ชาย สายร็อค คนนี้ เจออะไรมาบ้าง และผ่านเรื่องราวเหล่านี้ไปได้อย่างไร พี่ปูเล่าให้ทีมงานฟังว่า
“งานแทบจะไม่มีเลยครับ เพราะปัญหาโควิด19 ทำให้สถานบันเทิงต่างๆ ซึ่งมันคือสถานที่ที่เราเคยทำมาหากิน มันไม่ได้ทำงาน ทั้งอีเว้นท์ คอนเสิร์ต เพราะทุกๆงานที่มันจะทำให้เกิดมหรสพต่างๆ มันจัดไม่ได้”
ปกติธรรมดาๆเลยเนี่ย สัปดาห์นึงผมต้องมีงานอย่างน้อยๆเลยก็ซัก 3 งาน เดือนนึงก็ประมาณ 12 งาน มันหายไปเลยเต็มๆ ที่รู้สึกเสียดายที่สุดเพราะผมกับวงเตรียมกำลังจะมีคอนเสิร์ตครบรอบ 25 ปี แบล็คเฮด ซึ่งมันต้องพับโปรเจคไปโดยปริยาย
ผมเคยตั้งเวลาชีวิตเอาไว้นะครับว่า พออายุเราใกล้ถึงเวลา หรือร่างกายมันกำลังจะหมดแรง เราคิดไว้เลยว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะทำงานอีกซัก 4-5 ปี แล้วเราก็จะหยุด แต่สถานณการณ์นี้มันหยุดโดยไม่มีอะไรบอกกล่าว ไม่มีกติกาอะไรทั้งนั้น ไม่มีการออมชอม หยุดโดยไม่มีอะไรกั้น (หัวเราะ) เหมือนโดนไล่ออกอ่ะครับ แล้วออกโดยไม่มีเงินประกันใดๆด้วย
โชคดีที่ผมยังมีเงินเก็บบ้าง แต่มันเป็นการเก็บเพื่อใช้ในวันข้างหน้า ซึ่งวันข้างหน้าของผมคือ นู้นเลย 60 บวกๆ แต่นี่เท่ากับเราต้องเอาเงินที่เราตั้งใจจะใช้เพื่ออนาคตอันไกล มาใช้ในตอนนี้ และมันกินเวลาหลายเดือนติด ที่มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้เลย ก็เท่ากับว่า อนาคตที่เราปูทางเอาไว้ มันต้องเปลี่ยนเส้นทาง มันต้องกลับมาจุดเริ่มต้นอีกครั้ง หรืออาจจะกลับมาถึงจุดติดลบก็ได้ ถ้าสถาณการณ์มันไม่ดีขึ้น
ช่วงที่หยุดงานไป ทำอะไร คิดอะไรใหม่ๆบ้าง?
เอาจริงด้วยความที่มันว่างมาก นอกจากจะฟุ้งซ่านแล้ว เราเริ่มกลับมามองสิ่งที่เคยอยากทำแล้วไม่มีเวลาได้ทำ ด้วยเหตุผลปัจจัยใดก็ตาม มันก็ทำให้เราได้มีเวลาดึงความอยากทำต่างๆกลับมาทำในช่วงนี้ แม้กระทั่งการเล่นโซเชียล เมื่อก่อนไม่เคยสนใจอะไรกับโซเชียลเลย ตอนนี้มาศึกษาโซเชียลเยอะขึ้น และก็เห็นหลายๆโอกาสจากโซเชียลมากขึ้นเช่นกัน เดี๋ยววันนึงก็จะมีโปรเจคดีๆจากโซเชียลเกิดขึ้นให้ได้เห็นบ้างครับ
และอีกอย่างที่ผมเริ่มทำก็คือ การมองหาธุรกิจอื่นๆที่ไม่ใช่สายดนตรี เราอยู่กับดนตรีมาตลอด 30 ปี เราเห็นมันมีการเกิด การดับ คือชีวิตศิลปินนักร้อง มันไม่จีรังอยู่แล้ว ตอนนี้ผมเลยมองด฿ตัวเองว่านอกเหนือจากงานเพลง เราสนใจอะไรอีกบ้าง ผมเนี่ยเป็นคนดูแลตัวเองประมาณนึง โดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณ เพราะเราต้องใช้ร่างกายเราทำงาน ผมกินคอลลาเจนมาโดนตลอด หลายคนทักว่าทำไมขาวเป็นแวมไพร์ขนาดนี้ เอาจริงเพราะผมไม่ค่อยออกแดด เป็นคนกลางคืน (หัวเราะ) แต่ที่มากกว่าขาวคือ สุขภาพผิว ที่เรารู้เลยว่ามันยังแข็งแรง ไม่เหี่ยว ดูสดชื่นตลอดเวลา ผมเลยมาจับธูรกิจคอลลาเจนเต็มตัว ในแบรนด์ Maxxlife เป็น เป็ปไทด์ คอลลาเจน 100% ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ ใสสะอาดบริสุทธิ์ ที่สำคัญสกัดจากปลาเล็ก ซึ่งปลาเล็กมีวงจรชีวิตสั้นกว่า สิ่งตกค้างต่างๆในปลา สารตะกั่วเอยอะไรเอยก็มีน้อยกว่าปลาใหญ่ ผมไปค้นพบสูตรนี้มาจากญี่ปุ่น และสนใจเอามาต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเองได้ อยากให้ลองกันครับ เห็นผลทันที นอกจากเรื่องผิว ยังได้เรื่องผม และข้อต่อด้วย
และวันนี้ผมมีโปรโมชั่น เอา โค้ดส่วนลด มาให้ด้วยครับ จากราคาปกติ 1,190 บาท เพียงใช้โค้ดส่วนลด
POO123 ลดไปเลย 240 บาท เหลือแค่ 950 เท่านั้น เข้าไปที่ลิ้งค์นี้ http://bit.ly/2ulmd4K
และใส่โค้ดตอนสั่งซื้อ ก็รับส่วนลดไปได้ง่ายๆเลย ฝากด้วยนะครับ
แล้วทางด้านผลงานเพลง เราจะได้เห็นผลงานใหม่ๆจาก แบล็กเฮดบ้างมั้ย?
ตอนนี้กำลังทำคอนเสิร์ตครับ ผันตัวมาเป็นผู้จัดเองด้วย มีพาร์ทเนอร์ที่มีความชำนาญด้านต่างๆมาช่วยกัน เนื่องจากตอนนี้เริ่มมีการปลดล็อคบางอย่างแล้ว ในเรื่องการจัดคอนเสริ์ตก็ทำได้ แต่ก็ต้องอยู่ในรูปแบบของ new normal มีการเว้นระยะ และด้วยปริมาณพื้นที่มันถูกทอนให้เล็กลงอยู่แล้ว และเป็นนอกสถานที่ด้วย ก็จะสอดคล้องกับนโยบายด้านความปลอดภัยเรื่องโควิดด้วยครับ งานจะมีขึ้นวันที่ 12 กันยายน ที่พัทยาครับ เป็นแนวร็อคอันปลั๊ก เพื่อนๆศิลปินกันเองทั้งนั้น
ส่วนผลงานส่วนตัว ตอนนี้ได้เซ็นสัญญากับค่ายใหม่ ข้าวสาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ผลงานเพลงก็เสร็จแล้วบางส่วน ตั้งใจจะปล่อยเป็น EP ครับ EP ละ 5 เพลง แล้วค่อยรวมอัลบั้มอีกที ผลงานเพลงก็ยังมีความเป็นแบล็คเฮดที่ชัดเจน ยังไงต้องรอฟังครับ จะเริ่มปล่อยช่วงเดือนตุลาคม ปีนี้
สุดท้าย อยากให้ฝากกำลังใจถึงคนไทยทุกคน กับสถาณการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
คือผมจะบอกยังไงดีล่ะ ไม่ได้แค่อยากจะบอกว่า ต้องเข้มแข็งนะ ต้องผ่านไปให้ได้นะ คือเราเป็นมนุษย์อ่ะ มันมีจิตตกอยู่แล้ว ผมเองก็ไม่ได้เก่งมาจากไหน ผมเองก็มีจิตตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เต็ม 10 ให้ 10 เลย ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว แน่นอนมันทำให้เราจิตตก และผมเชื่อว่าทุกคนก็จิตตกเช่นกัน แต่อยากจะบอกว่า เพียงแค่เราเดินครับ แค่เดิน เดินต่อไป การหยุดเดิน อยู่เฉยๆ ไม่ก้าว มันไม่ได้ทำให้เราหยุดอยู่กับที่นะ แต่การหยุด มันทำให้เราถอยหลัง ถดถอย ทั้งสภาพจิตใจ กำลังกาย และเงินในกระเป๋า เพราะฉะนั้น ขอให้เราแค่เดินต่อไปครับ เอากำลังใจดีๆพลังบวกจากคนรอบข้าง คนในครอบครัว คนที่เค้ารักเรา เหนื่อยหน่อยครับปีนี้ แต่เราต้องเดินต่อไป
วันนี้ได้มีโอกาสได้คุยกับ ปู แบล็คเฮด ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่ เป็นไอดอลของใครหลายๆคนในเส้นทางของดนตรี แต่วันนี้ ปู ได้ก้าวจากศิลปินนักร้อง มาชิมรางในการทำธุรกิจ ทั้งธุรกิจอาหารเสริมอย่างคอลลาเจน และการเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นสิ่งที่เค้าคุ้นเคยมาตลอดชีวิตการเป็นศิลปิน วันนี้ ปู แบล็คเฮด ได้ก้าวไปอีกหลายขั้น และเราในฐานะ Big Fan ก็พร้อมสนับสนุนทุกๆกิจกรรมของ ปู Black Head ต่อไป
อ่านต้นฉบับ : ปู Black Head กับชีวิตย่ำแย่ที่สุดในรอบ 30 ปี บนเส้นทางสายดนตรี
