นาทีนี้ไปไหนมาไหนใคร ใครก็จะเรียกนักแสดงคุณภาพ ตุ๊ก ญาณี ว่า คุณนายทองใบ ที่ไม่ว่าจะไปเดินตลาด ห้าง ร้านค้า จนกลายเป็นกระแสฟรีเว่อร์ที่ต้องพูดถึงกับบทบาท แม่ จุดกำเนิดของละครคือการเลี้ยงลูก ที่เลี้ยงลูกยังไง ก็ได้แบบนั้น จะดีจะชั่วอยู่ที่คนเลี้ยงดูเป็นผู้กำหนด ที่เจ้าตัวเอ่ยปากว่าตัวละครที่ตัวเองได้รับนั้น สะท้อนให้เห็นมุมในการเลี้ยงลูกของเราที่เลี้ยงออกมาไม่ดี ในละครเรื่อง บังเกิดเกล้า ซี่งล่าสุดนักแสดงมากความสามารถ ตุ๊ก ญาณี ที่ไม่ค่อยไปออกรายการไหน แต่ยอมเคลียร์คิวว่างมาออกรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้พูดคุยกันสนุกสนานถึงบทบาทที่ได้รับในละคร และบทบาทแม่ในชีวิตจริง พร้อมยังโต้กับข่าวที่ว่าค่าในแต่ละตอนของ ตุ๊ก ญาณี แพงมาก แถมทิ้งท้ายกับวิธีการดูแลหุ่นที่เป็นสูตรเคล็ดลับของ ญาณี โดยเฉพาะอีกด้วย
ถาม ตอนนี้ คุณนายทองใบ โดนทัวร์ลงหนักมาก พี่ตุ๊ก รู้ตัวไหม
ตุ๊ก ญาณี : จะเล่าให้ฟังนะเกิดมาเคยเข้าไปเห็น เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม พี่ไหมคือไม่ใช่เราไม่เล่นนะคะ แต่เราเล่นไม่เป็น (หัวเราะ) จะบอกว่าการที่เราไม่เล่นโลกเหล่านี้มันดีอยู่อย่างนะ คนชมเรา หรือคนด่าเราก็จะได้ไม่เหลิงเราจะได้ไม่รู้ แต่ก็มีเพื่อนๆหลายๆกลุ่มเขาก็ส่งมาให้เราดูนะ แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าโลกในโซเชียลของเราหายไปนะคะ เพราะเพื่อนๆเราสรุปว่าโชคดีแล้วที่เราไม่เล่นเพราะถ้าเราลงไปเล่นเราจะแรง อยู่แบบนี้สงบๆ
ถาม (อ้วน) ที่ได้ร่วมงานกับ คุณตุ๊ก ญาณี คือเขาเป็นผู้หญิงมหัศจรรย์จริงๆนะนางก็จะบ่นๆคนเขียนบทว่าเขียนอะไรมานักหนา สามหน้าสี่หน้าใครจะไปจำได้ แต่พอเข้าฉากคือเขาจำได้หมดรวดเดียวจบ คือบอกได้เลยว่า ตุ๊ก ญาณี เล่นแทบจะไม่มีผิดเลยตั้งแต่เล่นด้วยกันมาเธอเก่ง
ตุ๊ก ญาณี : คือ เราต้องทำการบ้านต้องทำความเข้าใจ เราจะอ่านรอบหนึ่งก่อน ขีดๆทำไฮไลต์ไว้ที่สำคัญ ในบทเรา พอเขาส่ง เบรคดาวน์มาเราก็อ่านแล้วทำความเข้าใจ เพราะฉะนั้น ก่อนวันถ่ายเราจะไม่ไปไหนเลยเราจะนั่งตั้งสติอยู่ที่บ้านดูบท ไม่ได้ถึงกับท่องเป๊ะๆแต่ต้องเข้าใจก่อน แต่ถ้าถามว่าเราอ่านถึงขนาดผู้กำกับไหมเกือบนะ เพราะบางตอนถึงไม่มีเราแต่ก็อยากเข้าใจเนื้อเรื่องเราก็ต้องอ่านนะ
ถาม เห็นว่าพี่กู่ ชอบมาเติมบทให้คุณนายทองใบ หน้าเซ็ตตลอด
ตุ๊ก ญาณี : บางทีเราก็เติมเอง เพราะบางทีเราเห็นว่าคนนั้นพูดไปแล้ว คนนี้พูดไปแล้ว เราก็น่าจะพูดแบบนี้สิ คือ เราก็เอาที่เราจะเติมเข้าไปขายให้ผู้กำกับก่อนนะคะ เราก็บอกว่า พี่กู่ ค่ะ เล่นแบบนี้ พูดแบบนี้ได้ไหมค่ะ ได้ๆชอบๆ ผู้กำกับชอบอีก หลังจากชอบเราก็เติมตลอดเลย (หัวเราะ)
ถาม แล้ว พี่ตุ๊ก ว่าคุณนายทองใบ กับคุณนายญาณี มีความเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง
ตุ๊ก ญาณี : (ทำเสียงสูง) เล่นยากมาก !!! ขอใช้คำนะคะว่าเล่นยากมากเพราะตัวเองจะใช้คำ ค่ะ ขา กับลูก ตัวเองไปไหมก็จะไหว้พระไหว้เจ้า แล้วดูสิในบทที่เราเล่น คือ คำแรงๆทั้งนั้น แต่เพื่อนๆบอกว่า ตุ๊ก ในเรื่องแทบไม่ได้เล่นเลย (หัวเราะ)
ถาม ในเรื่อง บังเกิดเกล้า เรื่องนี้คือสะท้อนให้เห็นว่า เลี้ยงลูกอย่างไร ก็ได้ลูกแบบนั้น ในชีวิตจริง พี่ตุ๊ก เป็น คุณแม่ แบบไหนกับลูกชาย แฟรงกี้
ตุ๊ก ญาณี : ถูกต้องค่ะ ในเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเลี้ยงลูกที่ เลี้ยงลูกยังไง ก็ได้แบบนั้น ส่วนในชีวิตถามว่าเราเป็นแม่แบบไหนสำหรับลูกชายน้องแฟรงกี้ เราเชื่อนะการเลี้ยงลูกแบบไหนก็ได้อย่างนั้น เพราะเขาดูจากตัวเรา ที่เราทำให้เขาเห็นเพราะบางทีการสอนไม่ได้สอนด้วยการพูดนะ แต่สอนด้วยการกระทำที่ให้ลูกเห็นแต่เกิด
ถาม มีบทแบบไหนไหมที่ ตุ๊ก ญาณี จะไม่รับเล่น
ตุ๊ก ญาณี : ไม่มี แต่เสื้อผ้าเราต้องบังคับคือ แขนกุดไม่เอาเพราะแขนเราไม่ได้สวยเหมือนตอนสาวๆ อะไรที่เลี่ยงได้ก็เลี่ยงหน่อย
ถาม ได้คำตอบว่ารับทุกบทที่ส่งมาแต่ก็มีกระแสออกมาว่า ถ้าไม่ใช่แม่พระเอกจะไม่รับเล่นเป็นเพราะอะไรเอ่ย
ตุ๊ก ญาณี : แบบนี้ค่ะ ถ้าเราเป็นแม่นางเอก แล้วต้องเข้าไปหอมนางเอกมันก็จะอีกแบบ แต่ถ้าเราเป็นแม่พระเอกเราเข้าไปหอมพระเอกเราก็ชื่นใจไหม กฎเข้าไม่มีให้หอม แต่ตอนซ้อมเราก็ซ้อมจริงให้ผู้กำกับดูเลย เดี๋ยวหอมๆ แต่ส่วนมากบทที่เขาส่งมาให้เป็น แม่พระเอก ส่วนมากค่ะ
ถาม และอีกหนึ่งข่าวลือคือ ค่าตัวของ ตุ๊ก ญาณี คือแพงมาก
ตุ๊ก ญาณี : ไม่ขนาดนั้นนะ อย่าไปเทียบกับ ญาญ่า ณเดชน์ เขาสิ (หัวเราะ) ไม่เอานะ หมาก ปริญ กับ คิม เรายังไม่กล้าเทียบเขาเลย มันไม่ได้แพงมากแต่คือมาตรฐานที่เราทำ อาจจะรับแพงกว่านี้นิดหน่อยแต่ตอนนี้เศรษฐกิจเป็นแบบนี้อาจจะลงมานิดหน่อย แต่ก็เป็นมาตรฐานของเราค่ะ คือไม่ได้แพงอะไรมาก แต่คนที่เขาจะว่าจ้างเราเขามีความสุขกับเราแค่ไหน แล้วเราทำมาหากินเราทำงานให้เขาได้ขนาดไหน
ถาม และอีกข่าวคือ มีคนเม้าส์ว่าทำงานกับ ญาณี ยากมากเพราะต้องเป๊ะที่สุด ถ้าไม่เป๊ะ จะโดนวีนเหวี่ยง
(อ้วน) : ไม่มีนะคะ ญาณี ถ้าบอกว่ามากี่โมงไม่เคยสายไม่เคยมานั่งรอ เขาไม่ดุ ในกองมีแต่เสียงหัวเราะ ตุ๊ก ญาณี ที่ทุกคนบอกว่าดีหรือเปล่า วีนหรือเปล่าไม่มีเลยนะคะ
ถาม แต่ใครจะรู้ว่าเป็นนักแสดงมืออาชีพขนาดนี้ แต่พี่ตุ๊ก ญาณี ไม่ได้อยากเป็นนักแสดงมืออาชีพ แต่อยากเป็น
ตุ๊ก ญาณี : เมื่อก่อนๆอยากเป็นนักการฑูต ใฝ่ฝันมากว่าฉันต้องแต่งตัวโก้ สง่า สมองต้องมา ทีนี้ ตอนที่เวลาจะเข้ามหาลัยดันเรียนเตรียมศิลป์ เยอรมัน ไม่มีเลข แต่ตอนจะสอบเข้ารัฐศาสตร์จุฬาฯ สอบไม่เลขก็ภาษาฝรั่งเศส ก็ไม่กล้าเลือกอันดับหนึ่ง เราก็เลยเลือกอักษรศาสตร์จุฬาฯแล้วกัน
ถาม นอกเหนือจากการเป็นนักแสดงแล้วในยุคหนึ่ง สารพัดรายการที่ติดอันดับท็อปๆในประเทศไทย ต้องมี พี่ตุ๊ก ญาณี เป็นพิธีกร อย่าง มาตามนัด ถือว่าเป็นรายการแรกของ พี่ตุ๊ก ไหม
ตุ๊ก ญาณี : เมื่อก่อนเขียนบท เล่น กำกับ อยู่เบื้องหลังส่วนใหญ่แล้ว แต่มีรายการติดต่อเข้ามาสองรายการเราก็คิดแล้วว่ายังไงดีเอารายการใหม่ดีไหม เราจะได้ไม่มีเงาคนอื่นเพราะตอนนั้น พี่จิ กับ พี่หมอทำแล้วทำไว้ดีมากแล้วเปลี่ยนมาเป็นเรากับพี่ต้อย เศรษฐา เราก็คิดว่ายังไงดีจะเลือกไปรายการใหม่ดีไหม ตอนหลังเผอิญสนิทกับรุ่นน้องเขาก็บอกว่าให้เราทำรายการนี้สิ พอเราไปทำแล้วชอกช้ำระกำจิตมาก (สมัยนั้นเขาเขียนจดหมายไปที่บริษัทด้วยว่า คนนี้เป็นใครหัวเราะก็ปากกว้าง แล้วอะไรก็ไม่รู้พูดจาต่อปากต่อคำ) เราก็คิดว่าเราผิดตรงไหน เจ้านายจะไล่ไหมพอตอนหลังเราเริ่มเข้าที่เข้าทาง เสียงด่าก็เริ่มสงบลง
ถาม แต่ที่จำได้เจอหนังเรื่องแรก คือ ที่เห็น พี่ตุ๊ก อ้วนมาก
ตุ๊ก ญาณี : จากเรื่องเดือนเสี้ยวค่ะ เสื้อรัดร่างแน่นมากเรื่องนั้น ตอนนั้นอ้วนจริงๆ 72 อ้วนที่สุดในชีวิตเลยค่ะ แต่ก็ภูมิใจนะคะเรื่องนั้นได้รางวัลตุ๊กตาทองนะ ญาณี ถึงแม้ว่าเราเป็นตัวประกอบ แล้วสมัยก่อนยังไม่ซาวด์ ก็ต้องไปพากย์เสียงต้องจำบทให้เป๊ะๆ แต่พอเราเห็นตัวเองแบบตัวยังเจดีย์คือรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ซึ่งตอนนั้นเราคิดเลยว่าต้องลดน้ำหนักเพราะอีก 3 อาทิตย์หนังจะต้องออกรอบกาล่า เราก็เร่งลดน้ำหนักจาก 70 ลดลงมาเหลือ 60 นิดๆ เราไม่ได้กินยาหรือกินอะไรนะคะ เราแค่เปลี่ยนวิธีการกิน เช่น อยากกินไข่เจียว ก็เปลี่ยนมากินไข่ตุ๋นแทนหรือไข่ต้ม จะได้ไม่ต้องกินน้ำมันเยอะ อยากกินข้าวเราก็เปลี่ยนมากินผัก จะกินแกงกะทิก็เปลี่ยนมาเป็นแกงส้มแกงเลียง เราก็เลยเปลี่ยนวิธีการกินมาจากนั้นเลยตลอดชีวิต ไม่กินข้าวอีกเลย ถ้าจะกินคือเรากินน้ำข้าวต้มก็จะซดน้ำเอา อะไรที่เป็นแป้งคือเราไม่กินเลย ทำร้านพิซซ่ายังไม่เคยกินผมพิซซ่าของตัวเองเลย เราก็ชิมเสร็จแล้วคายแล้วทิ้ง เพราะเราอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง ผลไม้องุ่นเราไม่ชอบจริงๆ เราก็จะกินได้คือ องุ่นหมักดอง ส่วนของโปรดของเราที่ทานแทนข้าวเลยคือ ดอกกะหล่ำ ที่เราคิดเองเราก็จะนึ่งเก็บแช่ไว้ในตู้เย็นเลย คือเราเอาไว้ทานกับกับข้าวแทนข้าว
ถาม แล้วออกกำลังกายหนักไหม
ตุ๊ก ญาณี : ออกกำลังกายเราเลิกออกมา 2 ปีแล้ว ด้วยความที่เราขี้เกียจ แต่ว่านี่คิดว่าจะกลับไปออกแล้วค่ะ
ถาม แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่มีระเบียบวินัยมากการกิน การทำงาน แล้วการนอนเป็นยังไง
ตุ๊ก ญาณี : ไม่ค่อยนอน คือ เราไม่หลับเพราะเราจะดูทีวีตลอดทั้งวัน หลังๆก็นอนข้างล่างเพราะลูกพาเพื่อนมาปาร์ตี้ เราก็เลยเริ่มห่วงว่าจะปิดประตูบ้าง ไม่ปิดประตูบ้าง เราก็เลยนอนข้างล่างเข้าห้องนอนคือ เข้าไปอาบน้ำ นอนแบบน้อยมากเล่นไลน์จนเช้า จนเพื่อนถามว่า ตื่นเช้าหรือยังไม่ได้นอน เราก็บอกว่ายังค่ะ เพราะเพื่อนๆรู้ แต่ก็ไม่เพลียนะไปทำงานก็ทำได้ ไปกองเราก็ไม่นอน ไม่ไปนั่งจมอยู่โซฟาเราก็เดินตลอดเวลาตอนอยู่ในกอง
ถาม ล่าสุดเป็นยูทูปเบอร์ ขึ้นรายการคู่กับลูกชาย
ตุ๊ก ญาณี : เป็นช่วงว่างๆคือเพราะลูกชายทำอาหารเป็นก็เลยถ่ายกันง่ายๆให้แฟนลูกชาย ใช้กล้องมือถือถ่ายแล้วเขาก็ตัดต่อเราก็มีช่องยูปทูปก็เป็นรายการทำกับข้าว ก็มีแขกเป็น ตุ๊ก วิยะดา เรียกมากินมาดื่มกัน แต่ทุกวันนี้ไม่ได้ทำแล้วค่ะ เพราะต้องมาถ่ายละคร
ถาม เรียกว่า พี่ตุ๊ก ญาณี เป็นคนที่ทำงานจริงๆแอคทีฟจริงๆกระแสละคร บังเกิดเกล้า คุณนายทองใบ ดังมากเข้มข้นมาก
ตุ๊ก ญาณี : เลี้ยงยังไง ได้อย่างนั้น อยากให้หนูเป็นยังไงคุณต้องทำให้เขาเห็น เพราะเราพูดเขาจะไม่ได้เห็นภาพเหมือนที่เราทำให้เขาเห็น และเขาเห็นพ่อแม่ทำอะไรเขาก็จะเป็นอย่างนั้น ทำอย่างนั้น ละครทุกเรื่องมีข้อคิดทั้งนั้นอย่าดูแค่บางช่วงบางตอนแล้วสรุปว่านี้คือละครทั้งหมด อยากให้ดูทั้งหมดของเรื่องแล้วก็เข้าใจที่นักแสดงทุกคนทุ่มเทแล้วก็สื่อสารออกมาว่าอยากบอกอะไรให้กับคนดูนะคะ
